ปลุกคนไทยวางแผนการเงิน ตลท.เติมความรู้ Content Creators

ปัจจุบันทักษะความรู้เรื่องการเงินและการลงทุน ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้เราบริหาร สามารถวางแผนชีวิตและเป้าหมายทางการเงินได้ชัดเจน ลดความเสี่ยงจากหนี้สินและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งในอนาคตอีกด้วย

ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว ล่าสุดได้จัดโครงการ “Happy Money Content Creator” นำกูรูด้านการเงินการลงทุนให้ความรู้ Content Creators หรือ Influencers ยุคใหม่ ที่ไม่ว่าจะทำ Content ด้านไหน สามารถเข้าใจเรื่องการเงินการลงทุนที่ถูกต้อง นำไปปรับใช้กับเป้าหมายและแผนการเงินของตนเองได้ และแบ่งปันความรู้สู่วงกว้างแบบเข้าใจง่าย ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร
ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร

ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ผลสำรวจของฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์ฯพบว่า ผู้ลงทุนแต่ละ Generation มีช่องทางการรับข้อมูลที่แตกต่างกัน โดยราว 50% ของผู้ลงทุน Gen Z รับข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก Content Creators จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกการลงทุนมากขึ้น เป็นสื่อกลางให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงผู้ลงทุนรุ่นใหม่และประชาชนในวงกว้างได้โดยง่าย และส่งเสริมสังคมไทยให้มีสุขทางการเงินที่ยั่งยืน

“การส่งเสริมศักยภาพ Content Creators ให้มีความรู้ด้านการเงินการลงทุนที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับแนวทางของหน่วยงานกำกับที่ส่งเสริม Finfluencer หรือผู้มีอิทธิพลด้านการเงินการลงทุน ให้มีความรู้ด้านการวางแผนการเงินที่ถูกต้องและเหมาะสม”

ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์

เรื่องเงินไม่ยากหากรู้วิธีวางแผน

ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ ผู้เชี่ยวชาญและอินฟลูเอนเซอร์ด้านการวางแผนการเงิน เล่าว่า การวางแผนการเงินคือการมีแผนที่จะนำทางไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งหลักในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น เราต้องไม่มีหนี้สิน, สามารถพึ่งพาตนเองได้แม้เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด, มีชีวิตเพียงพอตามอัตภาพ, สามารถบรรลุเป้าหมายชีวิตที่ต้องการ, มีอิสรภาพทางการเงิน และมีเงินออมพอใช้เพื่อชีวิตวัยเกษียณอย่างมีความสุข

แต่การจะเป็นแบบนั้นได้ เราต้องรู้จักเครื่องมือสำคัญในการสำรวจตัวเองก่อนเริ่มวางแผนการเงิน เริ่มจาก 1.ต้องสำรวจฐานะทางการเงินตนเอง เพื่อวางแผนให้มีทรัพย์สินเยอะและมีหนี้สินให้น้อยที่สุด

ADVERTISMENT

2.รู้จักนิสัยการใช้เงิน โดยจดบันทึกรายรับและรายจ่ายของตนเอง เพื่อที่จะค้นหารูรั่วของกระเป๋าสตางค์ แล้ววางแผน “ลด” หรือ “เลิก” ใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น หรือจะทำงานเสริมเพิ่มรายได้เข้ามาอีก

และ 3.ตั้งวงเงินงบประมาณก่อนใช้จ่ายให้กับแต่ละหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการออมหรือใช้จ่าย เพื่อสร้างวินัยการออมและควบคุมการใช้จ่ายของตนเองไม่ให้เกินวงเงินที่ตั้งไว้

“เพียงใช้ 3 เครื่องมือนี้มาบริหารจัดการเงินแล้ว Content Creators จะสามารถเข้าใจการเงินตัวเองชัดเจนมากขึ้น ว่าปัจจุบันนั้นมีความมั่งคั่งเท่าไหร่ มีหนี้สินมากเกินไปหรือไม่ มีเงินเหลือใช้ เหลือออมในแต่ละเดือนหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีเครื่องมือนี้ในรูปแบบ Application ชื่อว่า Happy Money App เพื่อให้คนไทยได้ดาวน์โหลดไปใช้บริหารจัดการเงิน สร้างเงินออมได้เช่นกัน”

หลักวางแผนการเงินที่ดี

ดร.อัจฉราตอกย้ำว่า การสำรวจตัวเอง เป็นพื้นฐานสำคัญสู่การวางแผนการเงินให้สำเร็จ เพราะเป้าหมายการเงินเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และแตกต่างกันไปตามสถานะและช่วงชีวิต ยิ่งแต่ละคนเข้าใจการเงินตัวเองมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยให้ตั้งเป้าหมายชัดเจนและออกแบบแผนการเงินง่ายขึ้นเท่านั้น

เมื่อเรามีเป้าหมายและแผนการเงินที่ชัดเจนแล้ว เราจะรู้ว่าทุกวันนี้เราทำงานหาเงินไปเพื่ออะไร มีเหตุมีผลในการใช้เงินมากขึ้น ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ คือ ต้องแยกให้ได้ระหว่าง “จำเป็น” กับ “ต้องการ” รวมถึงเรียงลำดับความสำคัญของเป้าหมายให้ชัดเจน ซึ่งหัวใจสำคัญของการบริหารการเงิน เราต้องมี Passion ที่จับต้องได้ด้วย

ดร.อัจฉรายังให้คำแนะนำอีกว่า ทางรอดคนเป็นหนี้ก็คือ ต้องบริหารจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ เช่น ถ้ามีสัญญาณที่บอกว่าจะจ่ายหนี้ไม่ไหว ต้อง “ตั้งสติ” และสรุปหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ และเริ่มจ่ายหนี้แบ่งได้ 2 แบบ คือ จ่ายหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้ได้มากที่สุด หรือจ่ายหนี้ที่คงเหลือน้อยที่สุดก่อน เพื่อลดจำนวนเจ้าหนี้ แต่ถ้าถึงขั้นจ่ายหนี้ไม่ไหว ให้เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขอลดดอกเบี้ย ลดค่าผ่อนต่อเดือนน้อยลง หรือระยะเวลาผ่อนนานขึ้น

ซึ่งเราจะวางแผนจัดการหนี้ได้ ก็ต้องสำรวจการเงินตัวเองให้เรียบร้อย รู้ศักยภาพตนเองด้วยว่ามีสินทรัพย์เท่าไร ? หนี้สินเท่าไร ? รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเท่าไร ? เพื่อที่จะวิเคราะห์ตนเองและทำได้ตามข้อตกลงในการชำระหนี้

พงษ์ธร ถาวรธนากุล
พงษ์ธร ถาวรธนากุล

อยากมั่นคง-มั่งคั่ง ต้องเริ่มลงทุน

นอกจากนี้ การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนก็สำคัญเช่นกัน โดย นายพงษ์ธร ถาวรธนากุล CFA ผู้เชี่ยวชาญและ Content Creators ด้านการลงทุน เล่าว่า การลงทุนจะสามารถทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ซึ่งทางเลือกการลงทุนนั้นมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก หุ้น กองทุน ตราสารหนี้ ทองคำ ซึ่งผลตอบแทนแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันและมีความเสี่ยงที่ต่างกันด้วย

ทั้งนี้ หากคำนวณผลตอบแทนแบบอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2557-2567 ของสินทรัพย์การเงินที่เรียงจากความเสี่ยงต่ำไปความเสี่ยงสูง อย่างเงินฝาก ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.20% ต่อปี, ตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.30% ต่อปี, หุ้น ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.46% ต่อปี ขณะที่ “ทองคำ” ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8.21% ต่อปี ซึ่งหากเรามีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน รู้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตัวเอง และศึกษาทางเลือกการลงทุนต่าง ๆ เป็นอย่างดีแล้ว ก็สามารถเลือกลงทุนแบบผสมผสานสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ-ปานกลาง-สูง ก็จะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับแผนการลงทุนของเรา ลดการขาดทุนเมื่อตลาดผันผวน แถมยังสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนให้ และบรรลุเป้าหมายได้

“อยากให้เข้าใจว่าการลงทุนไม่ใช่ High Risk High Return เสมอไป หรือการลงทุนเสี่ยงสูงไม่ใช่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงสุดเสมอไป หากเราเข้าลงทุนในจังหวะที่ใช่และถูกต้องก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ซึ่งผลตอบแทนที่หาได้ อยากให้มองว่าเป็นโบนัสสำหรับชีวิต ลองวางแผนให้เงินทำงานเพียงให้เรามีความมั่นคงมากขึ้นก่อน อย่าพึ่งหวังรวย และหากชีวิตมั่นคงแล้ว ก็ค่อยมองหาโอกาสและศึกษาเทคนิคลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างความร่ำรวยก็ได้”

ตลาดหลักทรัพย์ฯจัดโครงการ “Happy Money Content Creator” เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงินและการลงทุนให้แก่เหล่า Content Creators เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้กับตนเองและเป็นพลังในการบอกต่อความรู้ให้สังคม ผู้สนใจติดตามคอนเทนต์จากเหล่า Content Creators ได้ที่ www.set.or.th/happymoneycontentcreator