
“เผ่าภูมิ” บุกระยองลุยปราบลักลอบ “น้ำมันเขียว” สั่งสรรพสามิตขันนอต 5 มาตรการ ใช้ RTS-AIS ตรวจเส้นทางเรือเรียลไทม์
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจการส่งออกน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร (น้ำมันเขียว) และการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตรวจสอบเส้นทางการขนส่ง ติดตามพฤติกรรมเรือผ่านระบบ RTS และ AIS ที่จังหวัดระยอง
ผมลงพื้นที่จังหวัดระยองตรวจการควบคุมและกำกับดูแลน้ำมันเขียว เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบใช้น้ำมันดีเซลที่ได้รับสิทธิภาษีศูนย์กลับมาใช้ในประเทศ โดยเฉพาะการนำกลับเข้ามาจำหน่ายในเขตทะเลอาณาเขตและบนฝั่งไทย โดย “น้ำมันเขียว” มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงให้แก่ชาวประมงที่ปฏิบัติงานในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร (12-24 ไมล์ทะเล)
โดยน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายจะมีราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลบนฝั่ง เนื่องจากไม่มีภาษี ซึ่งจะช่วยเหลืออุตสาหกรรมประมงของไทย ช่วยชาวประมงกว่า 7,000 ลำ ครอบคลุม 22 จังหวัดชายทะเล
แต่เนื่องจากน้ำมันดังกล่าวมีราคาต่ำ จึงทำให้เกิดการลักลอบนำกลับเข้ามาจำหน่ายหลายรูปแบบ ได้แก่ การลักลอบนำน้ำมันเขียวจากในทะเลกลับเข้ามาจำหน่ายในทะเลอาณาเขต หรือบนฝั่งภายในประเทศ การที่เรือสถานีบริการจำหน่ายน้ำมัน (เรือแทงเกอร์) จำหน่ายน้ำมันเขียวให้กับเรือประมงที่ไม่มีสิทธิ เช่น เรือประมงต่างชาติ หรือเรือประเภทอื่น และการนำเรือแทงเกอร์เข้ามาจำหน่ายน้ำมันในทะเลอาณาเขต
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผมได้สั่งการให้กรมสรรพสามิต “ขันนอต” ทั้งระบบ 5 มาตรการ เข้มงวดและครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้
1.ควบคุมด้วยทะเบียนและเงื่อนไข : เรือทุกประเภทที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการน้ำมันเขียว ได้แก่ เรือบรรทุกน้ำมัน เรือสถานีบริการจำหน่ายน้ำมัน เรือบรรทุกน้ำมันต่อเนื่อง และเรือประมง ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมสรรพสามิต และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
2.ตรวจสอบการจำหน่ายทุกขั้นตอน : นำเทคโนโลยีมาใช้ในการควบคุมการจำหน่ายน้ำมันเขียวอย่างครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นทางโรงกลั่นจนถึงเรือประมง โดยมีระบบตรวจสอบข้อมูลการจำหน่ายน้ำมัน ระบุผู้รับ ปริมาณ วันที่ และเวลาอย่างชัดเจน พร้อมติดตั้งมาตรวัดปริมาณรับ-จ่ายบนเรือทุกประเภท เพื่อให้สามารถตรวจสอบปริมาณการรับและการจำหน่ายน้ำมันเขียวในแต่ละช่วงการขนส่ง
3.ใช้เทคโนโลยีติดตาม Real Time Surveillance (RTS) : เพื่อตรวจสอบเส้นทางเดินเรือของเรือบรรทุกน้ำมัน ว่ามีเส้นทางการเดินเรืออย่างไร อยู่ในทะเลเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรหรือไม่ พร้อมระบบแจ้งเตือนหากมีพฤติการณ์ที่ผิดปกติเกิดขึ้น
4.ติดตั้งระบบสำแดงข้อมูลตัวตนอัตโนมัติ (Automatic Identification System : AIS) : สามารถติดตามพฤติกรรมและตำแหน่งของเรือประมงที่ได้รับสิทธิว่ามีพฤติกรรมหรือการเดินเรือที่ผิดปกติหรือไม่
5.บูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ : มีการบูรณาการข้อมูลและการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เช่น กรมศุลกากร กองบังคับการตำรวจน้ำ ศรชล. เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบอย่างเป็นระบบ