หุ้น-การเงิน

ทิสโก้-ธนชาตขึ้นดอกเบี้ยกู้รถ รับมือ “ต้นทุนพุ่ง-ค่าฟีวืด”

2 ลีสซิ่งแถวหน้า “ทิสโก้-ธนชาต” พร้อมใจขึ้นดอกเบี้ยกู้รถใหม่ รับเกณฑ์ สคบ.ทันควัน ล่าสุดทิสโก้ปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.10-0.25% จากดอกเบี้ยเดิม หวังทดแทนรายได้ “ค่าฟีหาย-ดอกเบี้ยค่าปรับต่ำลง” ชี้ดอกเบี้ยในตลาดจ่อขึ้นถึง 0.50% ล้อกระแส ดบ.ตลาดขาขึ้น แบงก์โอดต้นทุนระดมทุนพุ่ง ค่ายธนชาตปิดฉากแคมเปญดอกเบี้ยต่ำ 2% ดีเดย์ 2 ก.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.20% ดันดอกเบี้ยใหม่อยู่ที่ 2.19% ด้านเกียรตินาคินลั่นเกณฑ์ สคบ.ไม่สะเทือน ยืนยันยังไม่ปรับขึ้น ดบ. เผยสัญญาณชี้ปรับขึ้นต่อเมื่อตลาดแข่งดอกเบี้ยแรก-หนี้เสียสูง

นายรุ่งโรจน์ จรัสวิจิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ล่าสุดธนาคารได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับรถใหม่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2561 ซึ่งมีผลบังคับใช้ 1 ก.ค. 2561 ซึ่งส่งผลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมการโอนรถยนต์ และรายได้ดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง จนกระทบรายได้ของธนาคาร ทำให้ธนาคารจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถยนต์ใหม่ โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.10-0.25% จากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถในแต่ละแคมเปญของรถใหม่ เริ่มตั้งแต่ 2 ก.ค.เป็นต้นไป เช่น เดิมดอกเบี้ยสินเชื่อรถใหม่ดอกเบี้ย 1.99% ปรับดอกเบี้ยเป็น 2.15-2.25% เป็นต้น

“เมื่อแบงก์มีต้นทุนเพิ่มขึ้นก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยกู้ ก็เท่ากับว่าตอนนี้คนที่รับผลกระทบจากดอกเบี้ยด้วย คือลูกค้าดี ที่กลับได้ดอกเบี้ยแพงไปด้วย เพราะเมื่อดอกเบี้ยขึ้นก็เท่ากับว่าเหมารวมทั้งคนดีและไม่ดี ถูกปรับดอกเบี้ยขึ้นทั้งตลาด ดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระหนี้ เมื่อก่อนเก็บได้ราว 17% วันนี้รวมทุกอย่างแล้วเหลือ 7.25% ขณะที่ต้นทุนทางการเงินก็ขึ้นตามเทรนด์ดอกเบี้ยโลกด้วย และไทยก็มีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยขึ้นในระยะข้างหน้า ทำให้การระดมทุนเพื่อมาปล่อยสินเชื่อมีต้นทุนสูงขึ้น จากสองปัจจัยข้างต้นทำให้แบงก์ทั้งระบบมีการปรับดอกเบี้ยกู้เพิ่มเฉลี่ย 0.50% ภายในไตรมาส 4 นี้” นายรุ่งโรจน์กล่าว

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารยังไม่ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ โดยประกาศของ สคบ.ที่ออกมาเริ่มใช้ต้น ก.ค.นี้ ยังไม่ได้กระทบต่อธนาคารมากนัก ซึ่งการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้จำเป็นต้องดูหลายปัจจัย เช่น ภาวะการแข่งขันดอกเบี้ยในตลาด ภาวะหนี้เสียสูงในสินเชื่อใดสินเชื่อหนึ่ง ทำให้แบงก์ก็ต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นเพื่อรับความเสี่ยงดังกล่าว

“ประเด็นที่มีผลทำให้เราต้องขึ้นดอกเบี้ย คือ การแข่งดอกเบี้ยสินเชื่อรถในตลาด ดอกเบี้ยเช่าซื้อเพิ่มขึ้นทุกวันตามปัจจัยหลายอย่าง ทุกแบงก์ก็ต้องดูกำไร ดูขาดทุนในการปล่อยสินเชื่อด้วยแล้วแต่งวด ยกตัวอย่าง เช่น ช่วงที่หนี้เสียเพิ่มขึ้นเยอะ ก็ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งไม่ใช่ผลกระทบจาก สคบ.” นายอภินันท์กล่าว

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้สำหรับซื้อรถใหม่สำหรับแคมเปญดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า 2% ขยับขึ้นมาอีก 0.20% ทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อรถใหม่ที่ทำแคมเปญกับค่ายรถต่าง ๆ ปรับขึ้นมาอยู่ที่ขั้นต่ำ 2.19% ซึ่งมีผลตั้งแต่ 2 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

สำหรับอัตราดอกเบี้ยกู้รถโดยทั่วไป ยังไม่ได้มีการปรับขึ้นแต่อย่างไร โดยอัตราดอกเบี้ยกู้โดยทั่วไปมีตั้งแต่ 2.5-3.5% ขึ้นอยู่กับประเภทรถและอายุการกู้ แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้าก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นเช่นกัน

“เราเป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของธนาคาร ซึ่งถือว่าเป็นการบริหารด้านต้นทุนดอกเบี้ย ตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น” นายประพันธ์กล่าว

ส่วนการเริ่มใช้ประกาศใหม่ของ สคบ.ทางบริษัทได้มีการดำเนินการปรับกระบวนการดำเนินงานให้สอดคล้องแล้ว คือ มีการปรับการทำสัญญาเรื่องอัตราดอกเบี้ยกู้แบบลดเงินลดดอกเบี้ย แทนการทำสัญญาเดิมที่คำนวณแบบคงที่ รวมถึงจะต้องแสดงอัตราดอกเบี้ยกู้เฉลี่ยให้เห็นชัดเจนในสัญญาที่ทำด้วย และจะมีการทำตารางแยกให้เห็นในแต่ละงวด ว่าเงินต้นลดเท่าไหร่ ดอกเบี้ยจ่ายเท่าไหร่ ในส่วนของการคิดอัตราดอกเบี้ยปรับเมื่อผิดนัดชำระ จะปรับมาอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยในสัญญา บวกเพิ่ม 3% แต่จะไม่เกิน 15% ขณะที่ด้านรายละเอียดการคิดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็จะมีการแจ้งผู้กู้และผู้ค้ำประกันให้ทราบกรณีรถที่ถูกยึด จะถูกนำขายทอดตลาดนั้น ทางผู้กู้และผู้ค้ำประกันมีสิทธิที่จะมาไถ่ถอนได้ภายในเวลา 22 วัน