กสิกรไทยขานรับนโยบายภาครัฐ ร่วมรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทนลูกค้า สนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มวงเงินสูงสุด 3.33 เท่า ฟรีค่าธรรมเนียม บสย. 1.75% 4 ปี แรก อนุมัติวงเงินกู้ในปีนี้รับสิทธิจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยนาน 6 เดือน ตั้งเป้าสิ้นปีปล่อยสินเชื่อได้ 12,000 ล้านบาท
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมสนองนโยบายภาครัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ในการปรับปรุงเงื่อนไขสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่ใช้ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้ “โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน” (PGS ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ ให้ฟรีค่าธรรมเนียม บสย. 1.75% เป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อช่วยแบกรับภาระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันแทนลูกค้าซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
ปัจจุบันมีธุรกิจเอสเอ็มอีจำนวนมากที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักประกันหรือมีหลักประกันแต่ไม่เพียงพอต่อการขอสินเชื่อ จึงทำให้เป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การช่วยเหลือเอสเอ็มอีในโครงการนี้จะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีมีโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยภายในสิ้นปี 2560 ธนาคารได้เตรียมวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนไว้จำนวน 12,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับการช่วยเหลือและสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีภายใต้โครงการดังกล่าว ธนาคารยังพิจารณาเพิ่มวงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 3.33 เท่าของมูลค่าหลักประกัน โดยส่วนเกินหลักประกันให้ บสย.ค้ำประกันได้ ทั้งนี้ลูกค้าเอสเอ็มอีที่เข้าโครงการนอกจากจะฟรีค่าธรรมเนียม บสย. 4 ปีแรกแล้ว หากได้รับอนุมัติวงเงินกู้ระยะยาวเพื่อเสริมสภาพคล่องในปีนี้ ลูกค้าจะได้รับสิทธิจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยนาน 6 เดือน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการในช่วงนี้ธนาคารคาดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีสามารถยืนหยัดและเติบโตต่อไปได้