ไขเทคนิคการใช้ “บอลโลก” ช่วยโปรโมตธุรกิจ SMEs

ภาพจาก : www.mirror..co.uk

คอลัมน์ Smart SMEs

โดย ดร.รุจิกร ภาวสุทธิไพศิฐ ทีเอ็มบี

การทำธุรกิจก็เหมือนการล่องเรือไปในมหาสมุทร ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ ผู้บริหารธุรกิจต้องเก่ง ตัวผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพ ตอบโจทย์ลูกค้าเปรียบเหมือนคนขับเรือต้องมีความชำนาญ ตัวเรือเองต้องแข็งแรง และมีสมรรถภาพสูง เรือจึงจะแล่นไปได้ไกล

แต่ “ปัจจัยภายใน” อย่างเดียวก็ไม่สามารถการันตีความสำเร็จ… อาจจะมี “ปัจจัยภายนอก” ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจหรือการผันผวนของค่าเงิน มาทำให้ธุรกิจเราพังได้ในพริบตา หรือปัจจัยภายนอกส่งผลทางบวกต่อธุรกิจ ที่เหมือน “คลื่น” ที่ช่วยส่ง “เรือธุรกิจ” ของเราให้แล่นไปได้ไกล

ขณะนี้ มีปัจจัยภายนอกที่สามารถส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจต่าง ๆ ในวงกว้าง ปัจจัยตัวนี้ก็คือการแข่งขันบอลโลก 2018 ณ ประเทศรัสเซีย โดยผลสำรวจของนิด้าโพล พบว่า มีคนไทยเกือบ 60% ที่ติดตามชมมหกรรมลูกหนังระดับโลกในครั้งนี้ ถือเป็น “คลื่นขนาดยักษ์” แบรนด์ที่รู้จักหาจังหวะในการโต้คลื่น สามารถเกาะกระแสคลื่นยักษ์นี้ ผลักดันให้เรือธุรกิจของตนแล่นไปได้ไกล โดยที่ไม่ต้องออกแรงมาก

วันนี้ผมมีคำแนะนำสำหรับ SMEs ที่ต้องการนำกระแสบอลโลกฟีเวอร์มาใช้โปรโมตธุรกิจแบบลงทุนน้อย แต่ได้ผลตอบแทนสูงมาเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นเลย กลยุทธ์การตลาดหลายตัว ไม่ว่าการทำ direct marketing หรือ CRM จำเป็นที่เราจะต้องทราบ ชื่อ หรือเบอร์ติดต่อลูกค้า ซึ่ง SMEs มักจะประสบปัญหา เนื่องจากถ้าเราไปถามจากลูกค้าโดยไม่มีเหตุผล ลูกค้ามักจะไม่ยอมให้ข้อมูล ในช่วงนี้ เป็นจังหวะที่ดี ที่เราจะเกาะกระแสบอลโลก สอบถามข้อมูลลูกค้าแบบเนียน ๆ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำร้านชาบู เราอาจจะจัดแคมเปญให้ลูกค้าทายว่าใครจะเป็นดาวซัลโวสูงสุด ใครทายถูก และถูกจับรางวัลได้ จะได้สิทธิ์กินชาบูฟรี จนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งตอนที่ลูกค้าส่งคำทาย เราจะทำการสอบถามข้อมูล ในกรณีนี้ลูกค้ามักจะยอมให้ข้อมูล เนื่องจากถ้าลูกค้าชนะทางร้านจะได้จัดส่งรางวัลได้ถูกต้อง โดยเราอาจจะมอบบัตรสะสมแต้มให้ลูกค้าไปด้วย ซึ่งเมื่อนำบัตรสะสมแต้มมาลิงก์กับข้อมูลลูกค้า จะทำให้ SMEs สามารถสร้างฐานข้อมูล big data ของตัวเอง มาวิเคราะห์ได้หมดว่า ลูกค้าคนไหนมากินชาบูบ่อยเท่าไหร่ วัน เวลาอะไร มากินกี่คน ซึ่ง SMEs สามารถนำมาใช้จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายเพิ่มเติมได้อีก

นอกจากนี้ บนโซเชียลเรายังสามารถทำการตลาดแบบเรียลไทม์ เช่น ในระหว่างแข่งขัน เราอาจจะมีการโพสต์ผ่านเพจเราว่าโรนัลโด้เพิ่งทำแฮตทริกได้ แฟนโปรตุเกสคืนนี้มากินชาบูลด 30% รวมถึงอาจจะทำโปรโมชั่นที่อิงกับผลบอล เช่น ประกาศผ่านเพจว่าถ้าอังกฤษชนะ ได้เข้ารอบ 8 ทีม พรุ่งนี้ทางร้านจะลดราคาชาบู แบบมาสองจ่ายหนึ่ง

สิ่งสำคัญต้องอย่าลืมว่า ในกรณีที่เราไม่ได้เสียค่าลิขสิทธิ์เพื่อโฆษณาบอลโลกได้อย่างเป็นทางการ เราไม่สามารถใช้โลโก้ใด ๆ ของบอลโลก หรือแม้กระทั่งกราฟิก คำว่า “ฟุตบอลโลก” มาใช้ในโฆษณาของเราได้ ทางเลี่ยงก็คือ ให้ใช้ สัญลักษณ์ ที่มีความสัมพันธ์กับบอลโลก ที่คนทั่วไปดูแล้วก็เข้าใจทันที เช่น ในเพจของเราอาจจะประดับประดาเป็นรูปธงของประเทศต่าง ๆ และอาจจะมีภาพคนเตะฟุตบอล การตลาดแบบนี้หลายคนอาจจะเรียกว่า “ambush marketing” คือแบรนด์ที่ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์หลักของงานกีฬาใดกีฬาหนึ่ง ทำการ “ซุ่มโจมตี” แบรนด์ที่จ่ายเงินเพื่อเป็นสปอนเซอร์หลัก โดยการ “แฝงตัว” เกาะกระแสงานกีฬานั้น มาใช้โฆษณาสินค้าแบบถูกกฎหมาย

Ambush marketing เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เหมาะกับ SMEs เนื่องจากความสำเร็จของการทำการตลาดแบบนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าต้องมีเม็ดเงินจำนวนมาก แต่คนทำต้องมี “ความคิดสร้างสรรค์” ในการหา “เหลี่ยมทางการตลาด” เพื่อนำจุดเด่นของคอนเทนต์ มาสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ของตน