ประกันรถแข่งดุหั่นเบี้ยชิงลูกค้า TIP จับกลุ่มเฉพาะ-ธนชาตเข็นโปรดักต์ใหม่

“ทิพยประกันภัย” ไม่หวั่นสงครามราคา เน้นเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ชูประกันรถชั้น 1 “TIP Shock price” ฮอตฮิต ตั้งเป้าโกยเบี้ยมอเตอร์สิ้นปี’61 ที่ 3 พันล้านบาท โต 5% ค่าย “ธนชาต” จ่อขอ คปภ.ออกโปรดักต์ใหม่ คาดวางขายทันปีนี้ ส่วน “แมกซี่” เตรียมเปิดตัวพันธมิตรใหม่ในไตรมาส 3 นี้ พร้อมตั้งเป้าเบี้ยรับ 1.5 พันล้านบาท โต 15% เผย 6 เดือนประกันรถยนต์โตโลด 14-15%

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย (TIP) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มประกันรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง การแข่งขันยังคงดุเดือด เนื่องจากมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งเค้กก้อนนี้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ตอัพที่พัฒนานวัตกรรมด้านอินชัวร์เทคในช่วงเวลานี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้ามาแบ่งเค้กตลาดประกันรถยนต์ไปได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นน่าจะเห็นภาวะการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะทุกบริษัทจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรักษามาร์เก็ตแชร์ไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เบี้ยประกันภัยโดยรวมทั้งอุตสาหกรรมลดลง

ในส่วนของบริษัทยังไม่มีนโยบายเข้าไปแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นสร้างโปรดักต์เพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (niche market) มากขึ้น แม้ว่าวอลุ่ม (ยอดเบี้ย) จะไม่ได้มาก แต่เชื่อว่าจะได้กลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ อย่างเช่น ประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้หญิง (Tip Lady) ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อน โดยพบว่ามีลูกค้าเข้ามาซื้อเฉลี่ย 50 กรมธรรม์ต่อวัน รวมถึงประกันรถยนต์ชั้น 1 “TIP Shock price” ที่เพิ่งวางขายผ่านช่องทางออนไลน์ไม่กี่เดือน ขณะนี้มียอดขายเข้ามาแล้วจำนวนหลายพันกรมธรรม์ ซึ่งถือเป็นสินค้าขายดีที่สุด

นายสมพรกล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ เบี้ยประกันรถยนต์จะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปี 2560 แม้ว่า 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทเริ่มคัดเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น แต่ทั้งปีคาดว่าจะกลับมาได้ตามเป้าหมาย

นายคงศักดิ์ หาญแสวงสิน รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนชาตประกันภัย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์จะเริ่มกลับมาคึกคัก หลังจากหมดภาระโครงการรถคันแรก ประกอบกับวัฏจักร (cycle) ของรถที่มีอายุการใช้งานประมาณ 5-6 ปี รวมถึงค่าซ่อม (maintenance) ที่สูงขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ปีนี้อาจจะเป็นปีแรกที่คนอยากจะเปลี่ยนรถใหม่ ขณะเดียวกันกำลังซื้อที่ฟื้นตัวและอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ยังคงตรึงไว้ที่ระดับ 1.50% ทำให้ยอดขายรถยนต์มีโอกาสเพิ่มขึ้น หนุนเบี้ยประกันภัยรถเติบโตตามไปด้วย

“ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติโปรดักต์ใหม่จาก คปภ. ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาและจะเริ่มขายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปีཹ บริษัทจะมีเบี้ยรับรวมเติบโต 5% จากปีก่อน หรืออยู่ที่ 7,875 ล้านบาท” นายคงศักดิ์กล่าว

นายจิตวุฒิ ศศิบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (Maxi) กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยที่ผลต่อการตัดสินใจซื้อรถ และต่ออายุประกันรถของผู้บริโภค แม้ปีนี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แต่ครึ่งปีหลังอาจจะไม่หวือหวานัก จึงคาดว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งอุตสาหกรรมจะเติบโตแค่ 2-3% เท่านั้น เนื่องจากผลกระทบจากการแข่งขันตัดราคาที่ยังคงรุนแรง รวมถึงอัตราการเคลมที่ยังอยู่ในระดับสูง

โดยทางแมกซี่ฯคาดว่าทั้งปีนี้ จะมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน หลังจากช่วงครึ่งปีแรกเติบโตค่อนข้างดี มีเบี้ยรับอยู่ที่ 650 ล้านบาท เติบโต 24% โดยเฉพาะประกันภัยรถเติบโตสูง 14-15% และประกันทรัพย์สินและสวัสดิการพนักงานเติบโตที่ 20% พร้อมคาดว่าภายในไตรมาส 3/61 นี้ บริษัทมีแผนเข้าไปจับมือพันธมิตรใหม่ในฐานะนายหน้าขายประกันภัย

“ส่วนความร่วมมือสตาร์ตอัพแฟร์ดี กับอีก 6 บริษัทประกันภัยที่คืนเงินให้ลูกค้าหากไม่มีเคลมสูงสุด 30% ขณะนี้ลูกค้าสามารถซื้อประกันรถผ่านบริษัทได้แล้ว 2 ราย คือ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ และทิพยประกันภัย ส่วนอีก 4 บริษัทอยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าจะขายได้ทันในปีนี้” นายจิตวุฒิกล่าว

นายจีรพันธ์ อัศวธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมตลาดประกันภัยรถของไทยถือเป็นตลาดใหญ่ในภูมิภาคนี้ หรือมีสัดส่วนมากกว่าในสิงคโปร์ที่มีเบี้ยรับ 3.4 หมื่นล้านบาทถึง 3 เท่า โดยปัจจุบันของไทยมีเบี้ยรับประกันภัยรถอยู่ที่ 1.21 แสนล้านบาท คิดเป็น 50% ของเบี้ยรับรวมทั้งอุตสาหกรรม แต่หลัก ๆ เป็นการทำประกันรถตาม พ.ร.บ.ภาคบังคับ ส่วนภาคสมัครใจยังไม่ถึง 50% ดังนั้นตลาดประกันภัยรถจึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก