ไทยพาณิชย์ไม่ยอมตกขบวน Belt&Road เดินหน้าเปิดสาขาในเซี่ยงไฮ้ วางกลยุทธ์ตัวกลางเชื่อมต่อการลงทุนไทย-จีน ผนึกกำลังสาขาในฮ่องกงดันยอดสินเชื่อล่าสุดทะลุ 1,000 ล้านเหรียญ วงการชี้ถ้ารัฐทำให้อีอีซีเกิดขึ้นจริงได้ จะช่วยดึงดูดเงินลงทุนจากจีนอีกมหาศาล
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า โครงการ Belt&Road ทำให้ประเทศไทยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งธนาคารของไทยจะเป็นตัวเชื่อมโยงภาคธุรกิจระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าด้วยกัน โดยล่าสุด SCB ได้เปิดสาขานครเซี่ยงไฮ้ ตั้งเป้าดึงดูดลูกค้าจีนที่ต้องการขยายธุรกิจมายังไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
ทั้งนี้ การปักธงเปิดสาขาที่เกิดขึ้น ถือเป็นย่างก้าวสำคัญของ SCB จากที่ผ่านมาให้บริการแก่ลูกค้าจีนมาตั้งแต่ปี 2522 ผ่านทางสาขาฮ่องกง ซึ่งปัจจุบันธนาคาร (รวมสาขาเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง) มีวงเงินสินเชื่อให้แก่ธุรกิจจีนรวมกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าหลังการเปิดสาขาในเซี่ยงไฮ้จะช่วยให้ขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“การเข้ามาในครั้งนี้เราไม่ได้ช้า แต่มาทันตอนที่รถไฟกำลังออกจากสถานีพอดี จากการที่การค้าระหว่างประเทศไทยและจีนเพิ่มขึ้นโดยตลอด และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต”
ขณะที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การลงทุนจากจีนสู่ไทย (FDI) เติบโตเฉลี่ยปีละ 14% โดยที่ธุรกิจจีนมีความต้องการขอเข้ามาลงทุนในไทยอยู่ใน 3 อันดับแรก ขณะเดียวกันจีนยังมีกำลังซื้อมหาศาลเหมาะสมกับการขยายตลาด โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของไทย ซึ่งมีคุณภาพและได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ดร.วิชิตกล่าวให้ความเห็นถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนด้วยว่า เป็นเรื่องเหนือการคาดเดาว่าจะมีบทสรุปในท้ายที่สุดอย่างไร และเชื่อว่าคงไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครเซี่ยงไฮ้ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือน พ.ค. 2561 โดยให้บริการลูกค้าธุรกิจด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากและสินเชื่อสกุลเงินต่างประเทศ เทรดไฟแนนซ์ การโอนเงินและชำระเงินระหว่างประเทศ ตลอดจนให้คำปรึกษาธุรกิจไทย-จีน ตั้งอยู่ ณ ชั้น 74 อาคารเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซ็นเตอร์ ซึ่งอยู่ในศูนย์กลางทางการเงินของประเทศจีน
รายงานข่าวระบุว่า นักลงทุนจีนให้ความสนใจโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของไทยสูงมาก โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน และการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟสใหม่ แต่การลงทุนอื่น ๆ อาทิ รถยนต์อีวี โรโบติกส์ จีนยังต้องการเห็นความชัดเจนจากภาครัฐมากกว่านี้
ขณะที่ผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยซึ่งร่วมการเปิดสาขาในต่างประเทศของธนาคารไทยพาณิชย์ในครั้งนี้ชี้ว่า ถ้ารัฐบาลสามารถทำให้โครงการอีอีซีเป็นรูปธรรมมากขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งดึงดูดนักลงทุนจีนให้มาลงทุนในไทยมากขึ้นเท่านั้น