ธปท.ชี้คนถือบัตรชิปการ์ดพุ่ง ลูกค้าธนาคารตื่นตัว “ความปลอดภัย”

ธปท.ลั่นสิ้นปีนี้ประชาชนเปลี่ยนใช้ “บัตรชิปการ์ด” แตะ 100% ถือว่าทำได้ก่อนกำหนดเดิมปลายปี”62 ชี้ประชาชนตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น แบงก์กสิกรฯเดินหน้าลูกค้าเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดสูง 60-70% ของบัตรเดบิตทั้งระบบ คาดกลางปีหน้าถือบัตรชิปการ์ดเต็มร้อย

นางนิศารัตน์ ไตรรัตน์วรกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเปลี่ยนบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิต จากที่เป็นบัตรแถบแม่เหล็กและใช้รหัส PIN เพียง 4 หลัก มาเป็นระบบชิปการ์ด ที่ใช้รหัส PIN 6 หลัก ว่า บัตรเอทีเอ็มแถบแม่เหล็กทั้งระบบน่าจะมีการเปลี่ยนมาเป็นบัตรระบบชิปการ์ดแล้วกว่า 70% และคาดว่าสิ้นปีนี้มีโอกาสที่จะเป็นบัตรชิปการ์ดแตะระดับ 100% ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ ธปท.กำหนดให้ทุกแบงก์เปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กเป็นชิปการ์ดภายในสิ้นปี 2562 นี้

โดยปัจจุบันเริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ มีการนำเสนอให้ลูกค้าเข้ามาเปลี่ยนบัตร หรือทำโปรโมชั่นมากขึ้น รวมทั้งการเปลี่ยนไปสู่ระดับชิปการ์ด ยังเป็นการยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้น ซึ่งเป็นการป้องกันการสกิมมิ่งหรือการโจรกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม ทำให้ประชาชนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญในการใช้บัตรชิปการ์ดมากขึ้น และมีการขอเปลี่ยนเป็นบัตรเดบิตแบบชิปการ์ดแทนการใช้บัตรเอทีเอ็มแถบแม่เหล็กกันจำนวนมาก ถึงแม้ว่าบัตรยังไม่หมดอายุการใช้งานก็ตาม

“ตอนนี้เราเห็นประชาชนระวัง และตื่นตัวเรื่องการเกิดสกิมมิ่งมากขึ้น ทำให้มีการหันไปเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ด เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นอีกระดับ เช่นเดียวกับแบงก์พาณิชย์ในวันนี้ที่เห็นแบงก์มีการเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มรองรับระบบชิปการ์ดได้เกือบ 100% แล้ว” นางนิศารัตน์กล่าว

ด้านนายอมร สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ลูกค้าของธนาคารได้ทยอยเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดแล้วประมาณ 7-8 ล้านใบ หรือสัดส่วน 60-70% จากฐานบัตรเดบิตและเอทีเอ็มทั้งหมดที่อยู่ราว 13 ล้านใบ ซึ่งคาดว่า ภายในกลางปี 2562 น่าจะเห็นฐานบัตรของธนาคารเปลี่ยนเป็นระบบชิปการ์ดได้ 100%

“ตอนนี้เราได้ทยอยเปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดแล้ว เช่น บัตรที่มีระบบชิปการ์ดที่เป็นวีซ่า หรือชิปการ์ดแอนด์ซิกเนเจอร์ ซึ่งปลอดภัยแล้วตามที่แบงก์ชาติต้องการ ซึ่งเปลี่ยนมาจากแม็กเนติก (แถบแม่เหล็ก) ที่ปลอดภัยอยู่แล้ว 100% ซึ่งวันนี้มีใบใหม่ ๆ ที่ออกเป็นระบบชิปการ์ดแล้วร่วมเดือนละ 3 แสนใบที่เป็นบัตรใหม่ ขณะที่บัตรเดบิตที่เป็นแถบแม่เหล็กของธนาคาร ปัจจุบันถือว่ามีเหลืออยู่น้อยมาก ทั้งจากการทำโปรโมชั่น เพื่อให้ลูกค้ามาเปลี่ยนเป็นระบบชิปการ์ด” นายอมรกล่าว


ทั้งนี้ ข้อมูลบัตรพลาสติกจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ สิ้นไตรมาส 1/2561 มีจำนวนบัตรพลาสติกรวมอยู่ที่ 81.34 ล้านใบ โดยแบ่งเป็น บัตรเดบิตอยู่ที่ 56.75 ล้านใบ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสิ้นปี 2560 ที่มีฐานบัตรเดบิต 54.32 ล้านใบ ขณะที่บัตรเอทีเอ็มลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 8.29 ล้านใบ จาก 8.75 ล้านใบในช่วงสิ้นปีที่แล้ว ขณะที่อีก 20.60 ล้านใบ เป็นบัตรเครดิต