สำรวจ SMEs ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

คอลัมน์ Smart SMEs

โดย สยาม ประสิทธิศิริกุล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

งานสัมมนา “Krungsri SME คิดแบบผู้นำยุคดิจิทัล” ที่กรุงศรีฯจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ชลบุรี และขอนแก่น ได้ประสบความสำเร็จและผ่านลุล่วงไปด้วยดีแล้วนะครับ โดยมีผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมกันจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่า เรื่องดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการกำลังให้ความสนใจ สอดคล้องกับบทสำรวจล่าสุดจากกรุงศรีฯ นั่นก็คือ รายงานดัชนีภาวะธุรกิจ SMEs ไตรมาส 2 ปี 2561 (Krungsri SME Index Q2/2018) ที่ได้ทำการสำรวจเรื่องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในองค์กร ผลสำรวจที่ได้มานั้นน่าสนใจมาก เพราะจะทำให้ได้รู้ถึงมุมมองผู้ประกอบการว่า จุดประสงค์ของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลคืออะไร ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง และใช้มาก-น้อยแค่ไหน รวมถึงสาเหตุที่ผู้ประกอบการหลายรายยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลมากนัก

จากผลสำรวจของ Krungsri SME Index Q2/2018 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในระดับปานกลาง โดยผู้ประกอบการขนาดกลางมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่าผู้ประกอบการขนาดเล็ก และผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีระดับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสูงกว่าผู้ประกอบการในภูมิภาคอื่น ๆ อย่างชัดเจน โดยผู้ประกอบการ 38% ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงคุณภาพ 33% ใช้เพื่อเพิ่มช่องทางการสื่อสาร และอีก 28% ใช้เพื่อเพิ่มรายได้

สำหรับเทคโนโลยีที่ใช้ นั้นผู้ประกอบการจำนวนมากถึง 60% ใช้ software อย่าง ERP (enterprise resource planning) เพื่อจัดการข้อมูลและวางแผนภายในองค์กรด้านการจัดเก็บเอกสารและข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic data) รวมถึงการใช้ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ อาทิ Line, messenger และ E-mail ซึ่งผู้ประกอบการเห็นตรงกันว่า Line และ E-mail คือเครื่องมือในการสื่อสารหลักที่ช่วยทำให้ธุรกิจดีขึ้นมากที่สุด สำหรับแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น จากผลสำรวจพบว่า 41% ของผู้ประกอบการได้เตรียมลงทุนเพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในปีหน้า ในขณะที่ผู้ประกอบการ 35% ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ในทางตรงข้าม ผู้ประกอบการที่ยังไม่สนใจลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมีถึง 63% ให้เหตุผลว่า ยังไม่มีความจำเป็น

หากมองในเชิงเศรษฐกิจจากผลสำรวจของไตรมาส 2 ที่เพิ่งผ่านมา จะพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจชะลอตัว โดยภาคบริการมีมุมมองเป็นลบมากที่สุด ในขณะที่ภาคการผลิตยังคงมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจ แม้ว่าจะลดลงกว่าไตรมาสก่อนหน้า ส่วนภาคการค้ายังมองว่าสดใส ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากภาคการส่งออกของไทยที่ขยายตัวดี ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นใน 3 เดือนข้างหน้ายังเป็นบวก สะท้อนว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจในไตรมาส 3 มีแนวโน้มดี โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่คาดว่าเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะสดใสกว่าไตรมาสที่ 2

ผลสำรวจจากรายงานนี้ตรงกับมุมมองของทีมวิจัยกรุงศรีฯ ที่มองว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 มีแนวโน้มขยายตัวชัดเจน ต่อเนื่องและกระจายตัวมากขึ้น ด้วยแรงขับเคลื่อนจากการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภค การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่ยังเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้ว่าภาคการส่งออกยังมีความเสี่ยงในเรื่องของผลกระทบจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ แต่การติดตามความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงเทรนด์ในกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ จะช่วยเป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ ผมหวังว่าข้อมูลและการวิเคราะห์จากรายงานดัชนีภาวะธุรกิจ SMEs ไตรมาส 2 ปี 2561 โดยกรุงศรีฯ หรือ Krungsri SME Index Q2/2018 จะเป็นประโยชน์ให้ท่านนำไปใช้กับธุรกิจของท่านได้นะครับ