กรมศุลฯ มึนขนส่งทางบกไม่รับจดทะเบียนรถประมูล ระบุปีนี้ไม่กล้าเปิดขายทอดตลาดทำรถของกลางตกค้าง 400-500 คัน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

กรมศุลฯ มึนขนส่งทางบกไม่รับจดทะเบียนรถประมูล ระบุปีนี้ไม่กล้าเปิดขายทอดตลาดทำรถของกลางตกค้าง 400-500 คัน รออธิบดีกรมศุลฯ ถกกรมขนส่งทางบกหาข้อยุติ ระบุเดิมขนส่งทางบกเคยตรวจสอบรถล็อตที่มีปัญหาแล้วไม่พบข้อมูลนำเข้ากรมศุลฯ จึงเปิดประมูล แต่ต่อมาดันไม่รับจดทะเบียนอ้างเป็นรถจดประกอบ

นายกรีชา เกิดศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในกรณีที่มีผู้ร้องเรียนจากการประมูลรถยนต์ที่ประมูลมาจากกรมศุลกากร แล้วไม่สามารถจดทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบกได้นั้น ขณะนี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร จะมีการเจรจากับกรมการขนส่งทางบก เพื่อหารือถึงการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ก็เคยมีผู้เสียหายบางรายร้องเรียนมาในประเด็นลักษณะคล้ายกันนี้ ซึ่งตนก็มีการอนุมัติคืนเงินให้ไป แต่ก็เป็นเรื่องเฉพาะกรณี ซึ่งทางกรมศุลฯ ก็นำรถดังกล่าวกลับคืนมา และ ต้องดูว่าหลังจากนี้ภาครัฐจะให้จัดการอย่างไร จะทำลาย หรืออย่างไร

ส่วนกรณีผู้ร้องเรียนยังต้องการนำรถไปจดทะเบียนรถอยู่ ไม่ได้ต้องการเงินคืนจากกรมศุลฯ จะต้องทำเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเป็นรายกรณี โดยที่ผ่านมา ก็เคยมีกรณีที่ศาลปกครอง มีคำสั่งให้กรมการขนส่งทางบกจดทะเบียนรถให้กับผู้ร้องเรียนไปแล้ว

“ก่อนที่กรมศุลกากรจะขายทอดตลาดรถยนต์ ก็ได้มีการสอบถามจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานระหว่างประเทศและหน่วยงานในประเทศ โดยเฉพาะตำรวจพิสูจน์หลักฐานแล้ว ว่าเป็นรถจดประกอบหรือไม่ ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่กรมศุลกากรสอบถาม ก็ยืนยันว่าไม่ใช่รถจดประกอบ แต่กรมการขนส่งทางบก กลับไม่ยอมจดทะเบียนรถให้กับผู้ที่ร้องเรียนเพราะอ้างว่าเป็นรถจดประกอบ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงส่งผลให้กรมศุลกากรขาดรายได้และไม่กล้าเปิดประมูลเพื่อขายทอดตลาดรถยนต์ในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ค้างอยู่ประมาณ 400-500 คัน จากปีก่อนที่ขายได้เงินเข้ารัฐกว่า 500 ล้านบาท” นายกรีชากล่าว

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร กรมศุลกากร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในขณะนี้ คงต้องรอดูนโยบายจากทางกรมการขนส่งทางบกเพียงอย่างเดียวว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากกระบวนการถือว่าพ้นขอบข่ายของกรมศุลกากรไป โดยฝ่ายกฎหมายมีความเห็นว่า ไม่สามารถคืนเงินให้ผู้ที่ชนะประมูลได้ เนื่องจากรถที่กรมศุลฯ เปิดประมูล ถือว่าเป็นรถที่ตกเป็นของรัฐ และผ่านกระบวนการขายทอดตลาดอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ซึ่งหากผู้ที่ประมูลได้ไปต้องการได้รับเงินคืน ก็ต้องไปฟ้องร้องทางแพ่ง โดยทางกรมศุลฯ เองก็ต้องปรึกษาอัยการเพื่อหาวิธีรับมือต่อไป


“เรื่องนี้ ขึ้นกับนโยบายของกรมการขนส่งทางบก เพราะเดิมเคยให้จดทะเบียน แต่มาติดขัดช่วงปี 2559-2560 ซึ่งเดิมรถที่มีปัญหานั้น ทางกรมการขนส่งทางบกเคยตรวจสอบแล้วบอกว่า ไม่พบข้อมูลเลขเครื่อง ทางกรมศุลฯ จึงดำเนินการเปิดประมูล แต่เมื่อผู้ชนะประมูลไปขอจดทะเบียน ทางกรมขนส่งทางบกก็บอกว่าตรวจสอบพบว่า มีข้อมูลเลขเครื่อง มีหลักฐานว่าเคยนำเข้า คือน่าจะเป็นรถจดประกอบ จึงไม่ให้จดทะเบียน” นายชัยยุทธกล่าว