“สรรพสามิต” จับ-ปรับสินค้าผิดกฏหมาย 382 คดี

กรมสรรพสามิตดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตโดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป

จากผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 2561 (ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 6 กันยายน 2561) พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 382 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 7.22 ล้านบาท โดยแยกเป็น – สุรา จำนวน 230 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 2.93 ล้านบาท

– ยาสูบ จำนวน 96 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 3.33 ล้านบาท
– ไพ่ จำนวน 10 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.06 ล้านบาท
– น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 17 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.50 ล้านบาท
– น้ำหอม จำนวน 2 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 0.11 ล้านบาท
– รถจักรยานยนต์ จำนวน 17 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ จำนวน 0.22 ล้านบาท
– สินค้าอื่น ๆ จำนวน 10 คดี รวมเป็นเงินค่าปรับ 0.07 ล้านบาท

โดยมีของกลางแยกเป็นน้ำสุรา จำนวน 726.520 ลิตร ยาสูบ จำนวน 7,188 ซอง ไพ่ จำนวน 246 สำรับ น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 14,592 ลิตร น้ำหอม จำนวน 3,517 ขวด รถจักรยานยนต์ จำนวน 18 คัน