“อภิศักดิ์” ยันรัฐบาลไม่ทิ้งรากหญ้า คาดสัปดาห์หน้าชง ครม. คืนแวตคนจนหนุนครัวเรือนใช้จ่าย

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัปดาห์ประกันภัย ปี 2561 ว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจไทยเติบโตที่ระดับ 4.8% แต่มีหลายคนบอกว่ารายได้ไม่ได้กระจายไปสู่ระดับล่างซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะด้วยระบบเศรษฐกิจทุนนิยมมันทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นทุกแห่งในโลก แต่คำถามคือว่าเมื่อเกิดแบบนี้แล้วรัฐบาลไทยได้กลับไปทำอะไรหรือเปล่า คำตอบคือรัฐบาลเข้าไปทำไม่ว่าจะเข้าไปช่วยคนซึ่งด้อยกว่า คนซึ่งมีโอกาสน้อยกว่าให้มีโอกาสเท่าเทียมหรือมีโอกาสมากขึ้น แต่ถ้าจะทำอย่างนั้นแน่นอนว่ารัฐบาลต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่เราพยายามพูดคือว่าในเมือเราส่งเสริมให้คนที่เก่งได้มีโอกาสได้มากขึ้น คนเหล่านั้นคต้องกลับมามองและช่วยเหลือคนซึ่งมีโอกาสน้อยกว่าให้เขาสามารถที่พ้นความยากจนได้ เพราะไม่อย่างนั้นช่องว่างหรือ GAP จะยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ

เพราะฉะนั้นในภาคอุตสาหกรรมทุกภาคจะต้องลงมาช่วย และนั่นเป็นสิ่งที่รัฐจัดทำโครงการ “พี่ช่วยน้อง” พยายามส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยการผลักดันเศรษฐกิจของไทยเหมือนกับการทำให้บริษัทเข้มแข็ง เพราะฉะนั้าเราต้องทำให้ประเทศเราเองเข้มแข็งและเติบโต มีกำลังเพียงพอ เราถึงจะมีเงินกลับมาช่วยผู้ยากจน ซึ่งการที่เศรษฐกิจโตสูงก็จะทำให้โอกาสที่จะคนซึ่งยากจนมีโอกาสซึ่งจะพ้นความยากจนได้อย่างเร็วขึ้น

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศไทย คนซึ่งเก่ง ทั้งๆ ที่ได้โอกาสเท่ากัน แต่คนที่เก่งกว่าจะเห็นโอกาสได้มากกว่าและไปได้เร็วกว่า

“เมื่อ 2 วันก่อนได้มีโอกาสทานข้าวกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งเขาได้ไปดูงานที่ประเทศจีนในเรื่องการ “แก้ความยากจน” ของประเทศจีน ซึ่งสิ่งที่เขาทำคล้ายๆ ของไทยในการดำเนินงานไปแล้วกว่า 2 ปีที่ผ่านมา สามารถแก้ไขปัญหาคนยากจนไปได้กว่า 40 ล้านคน ซึ่งสิ่งที่เขาทำคือ โดยกำหนดข้าราชการทุกคนมีหน้าที่เข้าไปดูแลคนละอย่างน้อย 1 ครอบครัวให้พ้นจากความยากจนให้ได้” รมว.คลังกล่าว

รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ส่วนบัตรสวสัดิการผู้มีรายได้น้อยคาดว่าจะเสนอเข้า ครม.ได้ในสัปดาห์หน้า ทุกอย่างพร้อมคาดว่าเริ่มได้ในเดือน พ.ย.61 ซึ่งไปหมดเอาสิ้นเดือน เม.ย.61 ส่วนนี้เป็นเฟสแรกที่เริ่มทำ โดยมีโครงสร้างที่ผู้ถือบัตรสวสัดิการผู้มีรายได้น้อย สามารถนำเงินจากในบัตรไปใช้จ่ายกับร้านซึ่งมี VAT โดยตัวแวตจะถูกส่งกลัมาที่กรมบัญชีกลาง และกรมบัญชีกลางก็จะเครดิตจ่ายเงินไปให้ในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปให้กับผู้ถือบัตรนำไปใช้จ่ายได้ โดยเบื้องต้นจะใส่เข้าเงินเข้าไปไม่เกินเดือนละประมาณ 500 บาท ซึ่งจะถือว่ารายจ่ายตกประมาณ 7-8 พันบาทแล้ว

โดยเราพยายามที่จะเปิดให้กับร้านค้า แต่เริ่มต้นเดือนแรกก็คงเป็นร้านธงฟ้า เนื่องจากว่าทางสมาคมธนาคารไทยยังไม่สามารถที่จะทำให้เครื่อง EDC ของแบงก์ต่างๆ รับบัตรตัวนีและแจ้งแวตไปยังกรมบัญชีกลางได้
“ผมว่าเดือนที่ 2 และ 3 ก็จะสามารถเปิดให้กับร้านค้าทั้งหมดที่มีแวตได ก็เหมือนกับตอนที่เราทำช็อปช่วยชาติ ซึ่งตอนนั้นพยายามกระตุ้นให้คนที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงสูงออกมาใช้จ่าย แต่ส่วนนี้จะเป็นการช่วยผู้มีรายได้ต่ำ” นายอภิศักดิ์กล่าว

รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า ถ้าเกิดเริ่มได้รับความนิยมและขายของได้มากขึ้น เชื่อว่าร้านค้าคงมาจดทะเบียนเพิ่ม แต่ก็เตรียมให้กรมสรรพากรเข้าไปให้ความรู้บ้างแล้วว่าการจดแวตไม่ได้ทำให้เสียภาษีเพิ่มขึ้น แต่จริงๆ จะสะดวกมากด้วยซ้ำ