คลังดึงเงินคืนอีก 8 พันล้าน บี้ 18 กองทุนกำไรเกิน-ดีเดย์ ก.ย.นี้

คลังเรียกเงินคืนอีกกว่า 8 พันล้านบาท จากกำไรส่วนเกินของ 18 ทุนหมุนเวียน ให้นำส่ง ก.ย.นี้ เบ็ดเสร็จปี’61 เรียกคืนกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท เผยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานส่งคืนแล้ว 1 หมื่นล้านบาท เมื่อเดือน ส.ค.

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กระทรวงการคลังได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้เรียกเงินนำส่งที่เป็นผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนอีก 18 ทุน เป็นเงิน 8,759.75 ล้านบาท เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ ครม.เคยเห็นชอบหลักการให้เรียกคืนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 10,000 ล้านบาทไปแล้ว ซึ่งส่งคืนในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ส่วนที่เรียกคืนเพิ่มเติมนี้ให้นำส่งภายในเดือน ก.ย.นี้

“การเรียกเงินส่วนเกินคืนคลังดังกล่าวเป็นไปตามที่คณะกรรมการนโย บายการบริหารทุนหมุนเวียนที่มี รมว.คลังเป็นประธาน และได้นำเสนอ ครม.เพื่อให้มีผลบังคับแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเร็ว ๆ นี้” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนได้พิจารณาเห็นว่า ทุนหมุนเวียนที่ต้องนำส่งเงินคืนคลังมากสุด 2 อันดับแรก คือ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน 25,746.86 ล้านบาท และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 14,805 ล้านบาท แต่หลังจากกรมบัญชีกลางได้ประชุมกับแต่ละกองทุนแล้ว ปรากฏว่าในส่วนของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานนั้น มีภาระค่าใช้จ่ายอีก 15,000 ล้านบาท จึงขอนำส่ง 10,000 ล้านบาท

ส่วนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตรวจสอบแล้วพบว่าการบันทึกข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนในส่วนที่เป็นประมาณการรายจ่ายปีบัญชี 2561 ซึ่งเมื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงแล้ว ส่งผลให้ไม่มีทุนหรือผลกำไรส่วนเกินที่ต้องนำส่งคืนคลังแต่อย่างใด

ด้านนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า การนำส่งรายได้เข้าคลังของรัฐวิสาหกิจ คาดว่าปีนี้จะทำได้เกินเป้าหมายเป็นระดับหมื่นล้านบาท หลังช่วง 10 เดือนแรกเกินเป้าไปกว่า 25,000 ล้านบาท หรือ 20.8%

ก่อนหน้านี้ นางสาวกุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า กระทรวงการคลังมั่นใจว่า ปีงบประมาณ 2561 จะเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากช่วง 10 เดือนแรกจัดเก็บได้ 2,027,375 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 67,253 ล้านบาท หรือ 3.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 6.3% โดยมาจากการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าเป้า 25,241 ล้านบาท หรือ 17.5% และรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้า 25,220 ล้านบาท หรือ 20.8%

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า คาดว่ากรมสรรพากรจะเก็บรายได้ภาษีได้ตามเป้าหมายที่ 1.86 ล้านล้านบาท หลังจากปรับสมมุติฐานต่าง ๆ ใหม่แล้ว