นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า การส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วงที่ผ่านมานั้น ก็ยังไม่ได้เป็นการระบุชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยคงต้องรอฟังผลการพิจารณาของ กนง.ในรอบการประชุมเดือน ก.ย.นี้ด้วย อย่างไรก็ดี เท่าที่กระทรวงการคลังมีข้อมูลต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจอยู่ ก็เห็นว่าไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้
“การขึ้นดอกเบี้ยเป็นหน้าที่ ธปท. เขาก็ต้องชั่งน้ำหนัก เหมือนเฟด (ธนาคารกลางสหรัฐ) ที่เขาก็ชั่งน้ำหนัก เพราะจริงๆ เดิมเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านี้ เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากมีสงครามการค้า จึงชะลอการขึ้นดอกเบี้ยให้ช้าไปอีก ซึ่ง ธปท.ก็ต้องคิดแบบนี้ ว่าเมื่อมีปัจจัยเสี่ยง ก็ต้องระมัดระวัง แต่ถ้าคิดว่าไม่เป็นไร ปัจจัยเสี่ยงไม่ได้มีอะไร ก็ทำได้” นายอภิศักดิ์กล่าว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
อย่างไรก็ดี รมว.คลัง กล่าวว่า แน่นอนว่า การขึ้นดอกเบี้ย ก็จะมีผลทำให้การลงทุนลดลงไป และความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนและบริษัทลดลงไปด้วย รวมถึงต้นทุนของรัฐบาลที่จะเพิ่มขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ ตนยังคิดว่าไม่น่าจะเป็นประเด็น เนื่องจากอยู่ในวิสัยที่จะบริหารจัดการได้
“ผมเคยพูดหลายครั้ง ว่าด้วยปัจจัยด้านเศรษฐกิจของไทย ยังไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย แต่ ธปท.เป็นผู้ดูรายละเอียด ข้อมูลผลกระทบต่างๆ เราเองไปบอกเขาไม่ได้ว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น แต่เท่าที่เราดูกว้างๆ ที่กระทรวงการคลังมีข้อมูล ดูแล้วก็ยังไม่จำเป็นต้องขึ้นตอนนี้” นายอภิศักดิ์กล่าว
ส่วนความผันผวนในส่วนตลาดหุ้นขณะนี้ รมว.คลัง กล่าวว่า เป็นผลกระทบมาจากภายนอกทั้งสิ้น โดยเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพที่ค่อนข้างดี จึงเป็นเหตุให้ไม่ถูกผลกระทบมากเหมือนหลายประเทศ
“ในอนาคต ถ้ามีสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น แน่นอนทุกคนได้รับผลกระทบหมด แต่เราเอง ผมเชื่อว่า ด้วยสถานะแบบนี้ เราจะกระทบน้อย” รมว.คลังกล่าว