“อภิศักดิ์” เร่งดันกฎหมายค้างท่อช่วง3เดือนท้าย จ่อดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าอีอีซีเพิ่ม

‘อภิศักดิ์’ เร่งดันกฎหมายที่ค้างให้เสร็จในช่วง3 เดือนสุดท้าย เตรียมดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในอีอีซีเพิ่ม หวังช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโต เตรียมปรับแอพถุงเงินฯ สแกนใบหน้าแทนการใช้รหัสคาดเริ่มใช้ 2 เดือนหน้า

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพยายามผลักดันกฎหมายที่ค้างอยู่ให้หมด โดยเบื้องต้นมีกฎหมายที่ผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 20 เรื่อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึงยังมีกฎหมายที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 10 เรื่อง คาดว่าจะผลักดันกฎหมายดังกล่าวให้เสร็จในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้เป็นกฎหมายสำคัญที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินทั้งหมด

“นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 ต้องเร่งดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากโครงการดังกล่าวถือเป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ ซึ่งไทยก็ต้องปรับตัวและทำให้ดีกว่าประเทศอื่นๆ เพื่อรองรับการลงทุนต่างๆที่จะเข้ามา เช่น ต้องทำให้การลงทุนง่าย ลดความยุ่งยากในการลงทุน และจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย เพราะไทยถือว่ามีโลเคชั่นที่เป็นจุดดึงดูดนักลงทุนอยู่แล้ว” นายอภิศักดิ์ กล่าว

สำหรับมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) แก่ผู้มีรายได้น้อยที่จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทางกระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องดังกล่าวเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งต้องรอการพิจารณาว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้เตรียมปรับรูปแบบแอพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐในลักษณะการสแกนใบหน้าแทนการใช้รหัสผ่าน เพื่อง่ายและสะดวกในการใช้ชำระสินค้าหรือกดเงินสด คาดว่าสามารถเริ่มใช้บริการแอพฯรูปแบบดังกล่าวได้ภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้