แมนจูเรียกับการลงทุน

คอลัมน์ จัตุรัสนักลงทุน

โดย เฉลิมเดช ลีวงษ์เจริญ

แมนจูเรียเป็นชื่อที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี น่าจะมาจากหนังจีนอิงประวัติศาสตร์หลาย ๆ เรื่องที่มักมีเรื่องราวของการรบพุ่งระหว่างชาวฮั่นกับชนเผ่าแมนจู แต่การได้มาเที่ยวชมราชธานีเก่าของชาวแมนจูด้วยตาตัวเอง ทำให้ผมรู้สึกว่าเมืองแมนจูมีขนาดเล็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะทีเดียว

พระราชวังของนูรานชิ ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ชิง ตั้งอยู่ในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ที่อยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เป็นวังที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่มีอะไรโดดเด่นที่สามารถเทียบได้กับพระราชวังต่าง ๆ ของเมืองหลวงอื่น ๆ ของจีน ทั้งนี้ พวกชนเผ่าแมนจูเป็นหัวเมืองประเทศราชอยู่ภายใต้การปกครองของจีนมาแทบตลอด การที่แมนจูสามารถเข้ายึดครองจีนฮั่นได้อย่างต่อเนื่องยาวนานเกือบ 300 ปีถือเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากจำนวนประชากรและจำนวนทหารที่มีน้อยกว่ามากแบบเทียบกันแทบไม่ได้ หากนับจากจำนวนสนมในวังของนูรานชิที่มีแค่ไม่กี่สิบคน เทียบกับสนมของกษัตริย์ราชวงศ์หมิงที่มีจำนวนหลายพันคน สัดส่วนทรัพยากรของชาวแมนจูเทียบกับชาวฮั่นน่าจะประมาณ 1 ต่อ 100

สาเหตุที่ชาวแมนจูสามารถเข้ายึดครองจีนฮั่นได้ เกิดจากความอ่อนแอจากปัญหาภายในของราชวงศ์หมิงในช่วงท้ายที่ปกครองอย่างล้มเหลว มีการกดขี่ข่มเหงแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดกบฏหลายครั้งจนในที่สุดในปี ค.ศ. 1644 กบฏชาวนานำโดยหลี่ จื้อเฉิง สามารถนำทัพสู้รบจนบุกถึงเมืองหลวงกรุงปักกิ่งจนกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงพ่ายแพ้ จนต้องหนีไปผูกคอตายบนเนินที่ตั้งอยู่ด้านหลังพระราชวังต้องห้าม

แม่ทัพใหญ่อู๋ ซานกุ้ย ที่คุมด่านทางตอนเหนือจึงนำทัพกลับเข้ามาปราบกบฏที่กรุงปักกิ่ง เนื่องจากกองกำลังทั้งสองฝ่ายรบกันอย่างสูสี อู๋ ซานกุ้ย จึงขอความช่วยเหลือจากแมนจูจนในที่สุดกองกำลังผสมสามารถเอาชนะทัพกบฏชาวนาได้

การรบกันเองระหว่างชาวฮั่นด้วยกัน ส่งผลให้ทหารแมนจูสามารถเข้ายึดครองกรุงปักกิ่งได้อย่างง่ายดาย จากนั้นทัพแมนจูจึงค่อย ๆ รุกคืบขยายดินแดนไปทางใต้จนถึงสมัยกษัตริย์คังซีที่สามารถปราบปรามพวกกบฏเชื้อพระวงศ์หมิงได้หมดสิ้น และผนวกดินแดนทั้งหมดของจีนเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองของแมนจู

การเข้ายึดครองจีนของแมนจูให้บทเรียนสำคัญหากเปรียบเทียบกับการลงทุน เราในฐานะนักลงทุนรายย่อยที่มีทรัพยากรไม่มากคล้าย ๆ กับเผ่าแมนจูสมัยนูรานชิ หากเราอยากมีขนาดพอร์ตที่ใหญ่ เราควรมองหาโอกาสในการลงทุนในกิจการที่ดี มีความสามารถในการแข่งขัน แต่อาจอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ชั่วคราว ส่งผลให้ราคาหุ้นตกต่ำจนถูกแบบเหลือเชื่อ คล้าย ๆ แผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ในสมัยปลายราชวงศ์หมิง หากเราสามารถทุ่มเงินเพียงน้อยนิดที่เรามีเข้าซื้อหุ้นแบบ super stocks ที่มีปัญหาแบบชั่วคราว อาจส่งผลให้พอร์ตของเราเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอย่างไม่น่าเชื่อ คล้าย ๆ กับชนเผ่าแมนจูที่เติบใหญ่มีอำนาจแทบจะมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในช่วงยุคทองของราชวงศ์ชิงในสมัยของกษัตริย์คังซีจนถึงเฉียนหลง

แน่นอนว่าโอกาสเปลี่ยนชีวิตแบบนี้คงไม่มีให้เห็นกันบ่อย ๆ แต่เป็นสิ่งที่นักลงทุนรายย่อยควรศึกษา อย่างที่ Charlie Munger เคยกล่าวไว้ว่า “You only need to get rich once.” ซึ่งบางทีการทำถูกแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอที่ทำให้เราร่ำรวยจากการลงทุนได้แล้ว


Happy investing