CCP มองแนวโน้มครึ่งปีหลัง อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์คอนกรีตทรงตัว ปรับกลยุทธ์ออกสินค้าใหม่ ปั๊มยอดขาย ดันมาร์จิ้น พร้อมพัฒนา Precast รองรับงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เสริมทัพธุรกิจ เผยผลประกอบการไตรมาส 2/60 รายได้รวมเฉพาะกิจการ 352.54 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน และมีรายได้จากงบการเงินรวม 542.24 ล้านบาท
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์คอนกรีตในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มทรงตัว จากความล่าช้าของโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดโครงการใหม่
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท รูปพรรณขายออก 41,950 บาท
“ในช่วงครึ่งปีหลังแม้ตลาดยังอยู่ในภาวะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ CCP ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการทำตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักและผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางการจำหน่าย ส่วนของโครงการภาครัฐ-เอกชนขนาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานดังกล่าวในทุกโครงการ อีกทั้งยังได้มีการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติม เพื่อทดแทนความต้องการที่ชะลอตัว”นายอาทิตย์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/ 2560 มีรายได้รวมเฉพาะกิจการอยู่ที่ 352.54 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเฉพาะกิจการอยู่ที่ 367.78 ล้านบาท และมีกำไรเฉพาะกิจการ จำนวน 1.84 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรเฉพาะกิจการอยู่ที่ 2.89 ล้านบาท และงบรวม บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 542.24 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 561.06 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 9.2 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,131.82 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,178.56 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 38.22 ล้านบาท สาเหตุที่ผลประกอบการลดลง ส่วนใหญ่มาจากรายการพิเศษของบริษัทในเครือ และจากการชะลอตัวของโครงการภาคเอกชน ซึ่งการลงทุนกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่ ส่งผลให้มากแข่งขันด้านราคา ทำให้ราคาจำหน่ายมีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นมีการปรับตัวลดลงและเกิดเป็นขาดทุนสุทธิจำนวนดังกล่าว ส่วนมูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทล่าสุดมีสูงกว่า 2,500 ล้านบาท โดย Backlog ดังกล่าวจะรับรู้รายได้ภายใน 1 ปีครึ่ง
