นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะหุ้นวันนี้ (18 ก.ย. 61) ปิดตลาดที่ดัชนี 1,744.42 จุด ปิดบวกได้ถึง 26 จุด ถือว่าดีเกินกว่าที่คาดไว้พอสมควร โดยเฉพาะครึ่งบ่ายที่ดัชนีพุ่งทะยานเกิน 1,730 จุดไปได้ และไม่มีท่าทีจะอ่อนแรงลงมา
โดยปัจจัยที่มีผลให้ดัชนีดีดตัวขึ้นสูง มาจากปัจจัยในประเทศที่ การประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้คืนภาษีแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจากมติดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ประกอบกับมีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT, AOT, KBANK, ADVANC และ BBL
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ส่วนปัจจัยต่างประเทศแม้สหรัฐจะมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากจีน แต่ไม่ได้รุนแรงอย่างที่ประเมินไว้ที่จะเก็บภาษี 25% แต่เก็บเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยเพียง 0.7% ทำให้ดัชนีวันนี้สามารถยืนแดนบวกปิดตลาดที่ 1,744.42 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด หรือ +1.51% ขณะที่ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 79,655.82 ล้านบาท
ขณะที่ประเด็นบวกอื่นๆ ในต่างประเทศ อย่างจีนอาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะมีประเด็นสงครามการค้า แต่ตลาดหุ้นจีนสามารถปิดตัว +1.82% และตลาดญี่ปุ่นก็ปิดบวกถึง +1.4% จากผลที่นายกรัฐมนตรี “ชินโซ อาเบะ” ประเมินว่า เขาน่าจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเขาน่าจะได้ลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง ทำให้นโยบายเศรษฐกิจแบบ “อาเบะโนมิก” สามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งล้วนเป็นแรงส่งที่ผสมกับตลาดบ้านเราทำให้วันนี้มีแรงซื้อกลับเข้ามา
สำหรับทิศทางการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.61) ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีลักษณะคล้าย 2 วันทำการก่อนหน้านี้ ที่ขึ้นไปแรงและพักตัว อย่างไรก็ดีโมเม้นตัมเชิงบวกจะยังเหลืออยู่ แต่จะเริ่มเบาลงแล้ว จึงให้แนวต้านถัดไปที่ 1,750 และแนวรับที่ 1,730 จุด