“แรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน” ดันดัชนีไต่แดนบวก – จับตาผลประชุมเฟด โบรกฯคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย “บล.เอเซีย พลัส” เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะหุ้นวันนี้ (20 ก.ย. 61) ปิดตลาดที่ดัชนี 1,752.11 จุด บวกขึ้นมาได้ +2.31 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 67,601.73 ล้านบาท ถือว่าภาพรวมยังดี สามารถที่จะยืนอยู่ในแดนบวกได้ หากพิจารณาตลาดเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียยังมีความกระจัดกระจายกันอยู่ทั้งบวกและลบ

ส่วนประเทศไทยแม้อยู่ในแดนบวกแต่เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวระหว่างวันยังแกว่งตัวในกรอบแคบที่ 1,745-1,763 จุด อย่างที่ประเมินเอาไว้ การเคลื่อนไหวภายในกรอบแคบแบบนี้ มาจากที่ปัจจัยแวดล้อมและปัจจัยต่างๆที่ สะท้อนผ่านไปแล้วเยอะพอสมควร ทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยลบ เมื่อไม่มีปัจจัยใหม่และขาดปัจจัยเสริมตลาดจึงดูเงียบลงไปแกว่งอยู่ในกรอบแคบแบบนี้

ดัชนีฯที่ 1,750 ถือว่าเป็นจุดสำคัญ วันนี้ดัชนียังเคลื่อนไหวไม่หลุดไปจากบริเวณนี้เท่าไหร่ ดังนั้นจุดนี้ยังเป็นแนวต้านสำคัญอยู่ หากผ่านดัชนีฯที่ 1,750 ไปได้จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านทันไปที่ 1,770 จุด

วันนี้กลุ่มพลังงานบวกขึ้นมาเป็นหลัก จากราคาน้ำมันดิบโลกที่ขยับขึ้นสูงเมื่อวาน ส่วนกลุ่มอื่นดูจะเงียบกันไป อาทิ กลุ่มแบงก์ กลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มค้าปลีกมีการพักตัวลงมา กลุ่มที่นำตลาดเป็นกลุ่มใหญ่เป็นกลุ่มพลังงานและมีกลุ่มค้าปลีกบ้าง เมื่อไม่ทีกลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่ผลักดันตลาดชัดเจน ทำให้ตลาดแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ

พรุ่งนี้สุดสัปดาห์ปกติการเคลื่อนไหวไม่ค่อยเยอะ ยังวางแนวรับและแนวต้านไว้คล้ายกับแนวเดิมที่ 1,745-1,765 จุด ยังไม่มีประเด็นที่กระทบตลาดช่วงสุดสัปดาห์นี้ คงต้องจับตาดูสัปดาห์หน้าที่จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันที่ 25-26 มีการคาดการณ์ว่าการประชุมรอบนี้จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% และวันจันทร์หน้า(24 ก.ย.) เป็นวันที่ทั้งสหรัฐ และจีนจะขึ้นภาษีต่อกัน ถือว่า effective หลังประกาศไปเมื่อสัปดาห์นี้ สหรัฐจะขึ้นภาษีจีน 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ ส่วนจีนจะขึ้นภาษีสหรัฐขึ้น 5-10% คิดเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญ