นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย “บล.เอเซีย พลัส” เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นในวันนี้(21 ก.ย. 61) เคลื่อนไหวผัวผวนแดนบวก โดยดัชนีเคลื่อนไหวระหว่างวัน ปรับขึ้นมาสูงสุดที่ระดับ 1,766.62 จุด แต่หลังจากนั้นก็มีแรงเทขายทำกำไรเกิดขึ้น จนปิดตลาดดัชนีลดลงมาอยู่ที่ 1,756.12 จุด บวก 4.01 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 78,592.62 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่วันนี้ปิดบวกทั้งหมด
“ตลาดหุ้นยังไม่มีปัจจัยบวกและลบใหม่ๆ เกิดขึ้น นักลงทุนมีโมเมนตัมเชิงบวกออกมาชัดเจนเรื่อยๆอย่างไรก็ตาม ช่วงนี้กลุ่มที่ซื้อสุทธิมากสุด คือ กลุ่มพอร์ตโบรกเกอร์(บัญชีบริษัทหลักทรัพย์) ซื้อสุทธิกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งซื้อสุทธิต่อเนื่องจากเมื่อวาน” นายพบชัยกล่าว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3 ของปีนี้ นายพบชัย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ(ปรับตัวออกด้านข้างขาขึ้น) โดยให้ระวังลุ่มโบรกฯที่จะซื้อ-ขายเร็ว ซึ่งสัปดาห์หน้าคาดการณ์กรอบแนวรับดัชนีฯไว้ที่ 1,730 จุด และกรอบแนวต้านที่ 1,775 จุด
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ วันจันทร์(24 ก.ย. 61) จะเป็นวันที่สหรัฐและจีนจะประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอย่างเป็นทางการ โดยสหรัฐเก็บภาษีจีน 10% วงเงิน 2 แสนล้านเหรียญดอลลาร์ และจีนเก็บภาษีสหรัฐ 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์ และวันอังคาร-พุธ(25-26 ก.ย. 61) จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ที่คาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
นายพบชัย ให้กลยุทธ์การซื้อขายในสัปดาห์หน้าว่า ยังแนะให้เล่นหุ้นที่เกี่ยวกับประเด็นภายในประเทศ(Domestic Play) คือ หุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากประเด็นการเลือกตั้ง ได้แก่ หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มสื่อนอกบ้าน นอกจากนี้หุ้นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มค้าปลีก ที่จะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
แนะหุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มเติม ซึ่งในวันอาทิตย์นี้จะมีการประชุมกลุ่มโอเปค(OPEC)และนอน-โอเปค(Non-Opec)ด้วย
