ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าต่อเนื่อง หลังตลาดแรงงานสหรัฐ เดือนกันยายนยังคงแข็งแกร่ง

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (8/10) ที่ 32.84/86 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (5/10) ที่ 32.85/87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปรับตัวอ่อนค่าในช่วงสายของวันนี้ (8/10) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี เพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.242% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2554 โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเมื่อคืนวันศุกร์ (5/10) ว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 134,000 ตำแหน่ง ในเดือนกันยายน ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 185,000 ตำแหน่ง และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยตัวเลขการจ้างงานลดลงในบางอุตสาหกรรมอาจมีสาเหตุจากพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ที่พัดถล่มรัฐนอร์ธและเซาร์ธ์แคโรไลน่าในเดือนกันยายน นอกจากนี้แล้วกระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนกรกฎาคม โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนสิงหาคม โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 270,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.8% นอกจากนี้แล้วตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.3% ในเดือนกันยายน เป็นไปตามตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.82-33.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.98/33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (8/10) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1516/1.1520 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (5/10) ที่ 1.1499/1503 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร นายฌอง-คล็อต ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) คาดหวังว่า คณะรัฐมนตรียุโรปจะมีความคืบหน้าในการเจรจากับอังกฤษในเดือนตุลาคมนี้ ในกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำข้อตกลงกันได้ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากการเจรจายังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทางด้านคณะรัฐมนตรีอังกฤษยังคงมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับข้อตกลง (Brexit) โดยอังกฤษและสหภาพยุโรปจะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 17-18 ตุลาคม 2561 ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้าในการเจรจา Brexit ทั้งสองฝ่ายก็จะจัดการประชุมสุดยอดอีกครั้งในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1473-1.1520 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1471/75 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนวันนี้ (8/10) เปิดตลาดที่ระดับ 113.88/91 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (5/10) ที่ 113.88/93 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สหรัฐอาจกดดันญี่ปุ่น ไม่ให้ทำข้อตกลงการค้ากับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์ว่า ดำเนินนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การทำข้อตกลงการค้าในอนาคตร่วมกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นนั้น สหรัฐอาจกำหนดเงื่อนไขในการห้ามไม่ให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ทำข้อตกลงการค้ากับจีน เช่นเดียวกับที่คณะทำงานของ ปธน.ทรัมป์ ได้กำหนดไว้ในข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ที่ทำร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก นับเป็นความพยายามในการปิดช่องโหว่ในข้อตกลงการค้า โดยมีเป้าหมายที่จะแก้ไขการกระทำของจีนทั้งในด้านการค้า การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการอุดหนุนอุตสาหกรรม เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 113.26-113.89 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 113.35/38 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แถลงการณ์ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก (10/10) ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ (10/10) แถลงการณ์ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา (11/10) การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) (11/10) ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ (11/10) ปริมาณการสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ (11/10) แถลงการณ์ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา (12/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.85/-2.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.0/-1.57 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ