รัฐขยับหักภาษี 500 บาท บริจาคการเมือง

สรรพากรแก้รัษฎากรเปิดทางประชาชนบริจาคภาษี 500 บาท หนุนพรรคการเมือง แถมเปิดทางให้ทั้งบุคคลธรรมดา-นิติบุคคลนำเงินบริจาคหักลดหย่อนภาษีได้ด้วย แจงบุคคลธรรมดาหักได้ไม่เกิน 1 หมื่นบาท ส่วนนิติบุคคลหักได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่มีผลบังคับใช้แล้วในปัจจุบัน ทางกรมสรรพากรจึงต้องมีการปรับแก้ไขประมวลรัษฎากร โดยจะเป็นการขยายวงเงินให้ประชาชนผู้เสียภาษีสามารถบริจาคเงินภาษีที่ต้องชำระไปให้แก่พรรคการเมืองที่ชื่นชอบได้เป็น จำนวน 500 บาท/ปีภาษี จากปัจจุบันที่บริจาคได้แค่ 100 บาท

นอกจากนี้ ยังเปิดให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่บริจาคเงินส่วนตัวให้แก่พรรคการเมืองนำรายจ่ายดังกล่าวมาหักภาษีได้ด้วย โดยบุคคลธรรมดาหักลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายได้ไม่เกิน 50,000 บาท

“ทางกรมจะรีบเสนอแก้ไขประมวลรัษฎากร คิดว่าน่าจะบังคับใช้ได้ทันรัฐบาลชุดนี้ เพราะต้องปฏิบัติตามกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญ ส่วนการสูญเสียรายได้ ในส่วนที่เพิ่มการบริจาคภาษีเป็น 500 บาท ถ้าดูจากที่ผ่านมา ก็คงมีผลไม่มาก ส่วนกรณีหักลดหย่อน อันนี้เป็นเรื่องใหม่ จึงต้องรอประเมินเมื่อมีการบังคับใช้แล้วอีกที” นายเอกนิติกล่าว

ทั้งนี้ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่…) พ.ศ. … (กรณีการหักลดหย่อนและการหักรายจ่ายสำหรับการบริจาคเงินให้แก่พรรคการเมือง) ที่จะกำหนดให้บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่พรรคการเมือง สามารถนำไปหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่บริจาค แต่รวมกันไม่เกิน 10,000 บาทในปีภาษีนั้น และ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินให้แก่พรรคการเมือง สามารถนำเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่บริจาคนั้น ไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามจำนวนที่บริจาค แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 50,000 บาท ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการแก้ไขประมวลรัษฎากรนี้ เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันที่มีความสำคัญต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การส่งเสริมให้พรรคการเมืองดำรงอยู่เป็นตัวแทนเจตจำนงทางความคิดของประชาชนนั้น จำเป็นต้องมีมาตรการในการเสริมสร้างระบบพรรคการเมือง โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง ซึ่งมาตรการหนึ่งที่จะนำมาใช้ คือ ให้ประชาชนผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่บริจาคเงินให้แก่พรรคการเมืองที่ตนสนับสนุน เพื่อให้พรรคการเมืองมีเงินที่จะใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง หรือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา มีการเปิดให้ประชาชนผู้เสียภาษี (เฉพาะบุคคลธรรมดา) สามารถบริจาคเงินภาษีจำนวน 100 บาท ให้แก่พรรคการเมืองที่ชื่นชอบได้ แต่หลังจากนี้จะปรับเพิ่มเป็น 500 บาท


นายปิ่นสาย สุรัสวดี ผู้อำนวยการกองวิชาการแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า การแก้ไขประมวลรัษฎากรในประเด็นดังกล่าว เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย