คลังรีวิว กม.ศุลกากรปัญหาเพียบ ชงแก้ 17 มาตราเพิ่มอำนาจอธิบดี

คลังเร่งยกแก้กฎหมายศุลกากร 17 มาตรา หลังบังคับใช้ 6 เดือน รีวิวพบปัญหาเพียบ ชี้กฎหมายไม่ให้อำนาจอธิบดีออกประกาศ/คำสั่งที่เป็นแนวปฏิบัติหลายเรื่อง อาทิ ระเบียบการกักสินค้า-การขายทอดตลาด พร้อมเพิ่มบทลงโทษให้อำนาจเจ้าหน้าที่กักสินค้า-อายัดทรัพย์ค้างจ่ายภาษี รวมถึงขายทอดตลาดนำเงินมาชำระอากร

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมศุลกากรได้มีการทบทวนพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 หลังมีการบังคับใช้มาได้ประมาณ 6 เดือน โดยรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินผล พบว่ามีปัญหาสำคัญในการบังคับใช้กฎหมาย คือ ไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจอธิบดีไว้อย่างชัดเจนในหลายเรื่อง ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรรวมถึงประชาชน ดังนั้น กรมจึงได้เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

“กรมได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะแล้ว อยู่ระหว่างรอเข้าที่ประชุม ครม. เนื่องจากเป็นการแก้ไขกฎหมายแม่จึงพยายามเร่งผลักดันแก้ไขกฎหมายให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ ไม่เช่นนั้นจะใช้เวลานาน และถ้าไม่แก้ไขจะเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนจะไม่สามารถทราบได้เลย ว่ากรมจะทำอะไร เนื่องจากกรมไม่มีอำนาจที่จะบอกให้ประชาชนรู้” แหล่งข่าวกล่าว

นายกรีชา เกิดศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ในฐานะรองโฆษกกรมศุลกากร กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ร่างปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ศุลกากรดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหาในทางปฏิบัติรวม 17 มาตรา เนื่องจากเกิดปัญหาความไม่ชัดเจนจากการที่อธิบดีไม่มีอำนาจออกกฎหมายลำดับรองอย่างประกาศระเบียบหรือคำสั่ง เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่ และประกาศให้ประชาชนรับทราบได้ เนื่องจากกฎหมายฉบับที่บังคับใช้ในปัจจุบันได้ตัดมาตราที่เป็นการให้อำนาจอธิบดีออกไป

ยกตัวอย่างกรณีประชาชนจะเดินทางออกนอกประเทศ แล้วมีการนำของติดตัวออกไป เช่น นาฬิกา กล้องถ่ายรูป เป็นต้น ที่เดิมกรมจะให้แสดงรายการของไว้ก่อนได้ เพื่อเวลานำกลับเข้ามาจะได้ไม่มีปัญหา แต่ปัจจุบันไม่มีระเบียบให้แจ้งก่อนออกนอกราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าให้นำของมาแสดง ดังนั้น ประชาชนต้องไปลุ้นกันเองเวลานำของกลับเข้ามาว่าจะถูกตรวจหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีเรื่องระเบียบการกักของ การขายทอดตลาด และการหักใช้เงินจากการขายทอดตลาด ระเบียบการยึดและการขายทอดตลาดทรัพย์สิน หลักเกณฑ์ในการสืบทรัพย์ของผู้ค้างชำระอากร หลักเกณฑ์การยื่นทุเลาการเสียอากร และการพิจารณาทุเลาการเสียอากร และหลักเกณฑ์เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินพิธีการศุลกากรอื่น

และยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องการกำหนดระยะเวลาการประเมินอากร ความรับผิดในการเสียอากรสำหรับการนำของเข้าหรือส่งออกทางบก และของตกค้างที่ล้วนยังไม่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติ รวมทั้งไม่มีบทบัญญัติกำหนดการขยายระยะเวลาการนำของผ่านแดนหรือถ่ายลำออกไปนอกราชอาณาจักร การดำเนินการกับของผ่านแดนหรือถ่ายลำที่ตกเป็นของแผ่นดิน การกำหนดให้โรงพักสินค้าหรือที่มั่นคงเป็นสถานที่สำหรับตรวจเก็บหรือตรวจปล่อยของผ่านแดนหรือถ่ายลำ และของที่กฎหมายกำหนดให้ได้รับยกเว้นหรือคืนอากรเมื่อส่งออก

“เรื่องการนำสินค้าผ่านแดน ผู้นำเข้า-ส่งออกจะไม่ทราบวิธีปฏิบัติเลย เพราะอธิบดีไม่มีอำนาจประกาศให้ทราบได้ สมมุติว่าสินค้าที่มาจากมาเลเซียจะผ่านไทยไป สปป.ลาว หรือสินค้าจากไทยจะผ่านมาเลเซียไปสิงคโปร์ การนำสินค้าผ่านประเทศใดต้องมีการทำข้อตกลงกัน โดยการทำความตกลงยินยอมกันแล้วอธิบดีกรมศุลกากรไม่สามารถเซ็นได้ทันที ต้องเสนอ ครม.เห็นชอบก่อนก็จะล่าช้า เพราะเรื่องสินค้าผ่านแดน ถ่ายลำ เป็นหลักสากล แต่พอตีความแล้วของเรามีข้อจำกัด” นายกรีชากล่าว

รองโฆษกกรมศุลกากรกล่าวอีกว่า ร่างกฎหมายที่เสนอแก้ไขยังมีเรื่องกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองในกรณีที่ผู้นำเข้ามีการค้างค่าอากรแล้วไม่มาชำระให้แก่กรมศุลกากร จะเพิ่มบทลงโทษในการไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว เช่น บริษัทแห่งหนึ่งนำเข้าสินค้ามาแล้วค้างจ่ายภาษีจำนวนหนึ่ง แต่กลับมีการนำเข้าสินค้าลอตใหม่เข้ามาอีก ซึ่งกรมศุลกากรจะมีอำนาจในการกักสินค้าดังกล่าวไว้ก่อนได้

“การกักไว้ก็เพื่อให้มาจ่ายค่าภาษีสินค้าลอตเก่าให้ครบ แต่หากยังไม่จ่ายอีกกรมก็จะนำสินค้าลอตที่ถูกกักไว้ไปขายทอดตลาด เพื่อให้ได้เงินมาชำระค่าภาษีสินค้าลอตเก่าที่ค้างอยู่ และหากยังไม่ดำเนินการอีก ทางกรมก็จะสามารถไปอายัดทรัพย์สินอื่น ๆ นอกจากสินค้าที่นำเข้าเพื่อนำเงินมาชำระได้ด้วย”

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายการทำงานให้เน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า รวมถึงให้ตรวจสอบสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเข้มงวด อาทิ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ยาเสพติด เป็นต้น

“จากนี้ก็จะพยายามวางระบบให้นำไอที นำ AI เข้ามาใช้ในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล จะช่วยลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ลงไปได้” นายกฤษฎากล่าว