กรมศุลรับสภาพรายได้หดปรับลดเป้าจัดเก็บใหม่

กรมศุลฯลดเป้าเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2560 เหลือ 1.04 แสนล้านบาท จากเป้าหมายเดิม 1.205 แสนล้านบาท เหตุผลกระทบปรับโครงสร้างภาษี-FTA พ่นพิษ เร่งเพิ่มประสิทธิภาพโค้งสุดท้าย เปิดให้ผู้นำเข้าดาวน์โหลดแอป “HS Check” ใช้เช็กพิกัด-อัตราภาษีล่วงหน้า เผยเริ่มโครงการตรวจสอบการเสียภาษีอากรให้กับผู้ประกอบการกว่า 1 ปี เก็บภาษีได้กว่า 624 ล้านบาท

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กรมศุลกากรได้ปรับลดเป้าหมายการจัดเก็บรายได้อากรในปีงบประมาณ 2560 ลงเหลือ 104,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ 120,500 ล้านบาท เนื่องจากมี ผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีและการใช้สิทธิพิเศษจากการเปิดเสรีการค้าอาเซียน (FTA) ทำให้รายได้ลดลง

อย่างไรก็ตาม จนถึงสิ้นปีงบประมาณที่เหลืออีก 1 เดือนเศษ คาดว่าจะจัดเก็บได้ตามเป้าหมายที่ปรับลดลงได้ ซึ่งกรมก็พยายามเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บในทุก ๆ ส่วน ทั้งการเพิ่มความเข้มงวดการใช้สิทธิพิเศษให้ถูกต้องมากขึ้น และปราบปรามผู้ฉวยโอกาสสำแดงราคาเท็จ

นอกจากนี้ยังเร่งนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยขณะนี้ได้เปิดใช้งานโมบายแอปพลิเคชั่น “HS Check” ที่ให้ผู้ประกอบการสามารถเช็กพิกัด เช็กอัตราภาษีล่วงหน้าได้แล้ว

“การเก็บรายได้ศุลกากรปีนี้คงได้ตามเป้าหมายใหม่ที่ปรับลดลงแล้ว ตอนนี้ผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นฟรี เพื่อใช้เช็กพิกัด เช็กอัตราภาษีล่วงหน้าได้แล้ว” นายกุลิศกล่าว

นายกุลิศกล่าวอีกว่า ขณะที่ล่าสุดกรมศุลกากรได้ปรับระยะเวลาการเข้าร่วม “โครงการตรวจสอบการเสียภาษีอากรให้กับผู้ประกอบการ” ให้เร็วขึ้น คือ วันที่ 31 ส.ค. 2560 นี้ จากเดิมที่กำหนดให้สิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ย. 2560 นี้ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการให้เจ้าหน้าที่ส่งหนังสือแจ้งให้ผู้ประกอบการที่สุจริตแต่อาจชำระค่าภาษีอากรไม่ครบถ้วน ได้ทบทวนตนเองตามประเด็นข้อสงสัยที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรมีหนังสือแจ้งให้ทราบ เพื่อจะได้ไปชำระค่าภาษีอากรส่วนที่ขาดให้ครบถ้วนด้วยความสมัครใจตามประเด็นที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ หากไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่ากระทำการโดยทุจริต ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการพิจารณาคดีโดยการผ่อนผันการปรับ และไม่ต้องเสียเงินเพิ่มในอัตรา 1% ต่อเดือนของค่าอากรที่นำมาชำระ

ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้จัดทำ “โครงการตรวจสอบการเสียภาษีอากรให้กับผู้ประกอบการ” โดยเริ่มทำโครงการวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2559 ซึ่งปีดังกล่าวได้มีการออกหนังสือแจ้งผู้ประกอบการไป 428 ราย ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 323 ราย ชำระอากรแล้ว 213 ราย เป็นจำนวนอากรที่เรียกเก็บกว่า 578 ล้านบาท และต่อมาได้ขยายเวลาอีก 1 ปี ให้สิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 โดยในปี 2560 ล่าสุด มีการออกหนังสือแจ้งผู้ประกอบการไปทั้งสิ้น 106 ราย มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการแล้ว 78 ราย ชำระอากรแล้ว 26 ราย เป็นเงินกว่า 46 ล้านบาท ทำให้ในช่วงเวลาปีกว่ามีการออกหนังสือแจ้งผู้ประกอบการไปทั้งสิ้น 534 ราย ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ 401 ราย ซึ่งชำระอากรแล้ว 239 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 624 ล้านบาท

“ผู้ประกอบการบางรายสมัครใจเข้าร่วมโครงการ บอกว่า พบความผิดเอง แต่ส่งเรื่องมาไม่ครบ มีส่วนที่กั๊กไว้อยู่ ซึ่งทางกรมก็ต้องตรวจสอบเหล่านี้ด้วย โดยเราใช้โครงการพันธมิตรศุลกากร บอกให้เขาทำให้ถูก แต่ไม่ใช่เปลี่ยนผิดเป็นถูก” นายกุลิศกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรในช่วง 9 เดือนแรกในปีนี้ ภาพรวมเก็บได้ที่ 77,855 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการราว 11,645 ล้านบาท หรือ 13% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 8.4% โดยเป็นผลมาจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 12,443 ล้านบาท หรือ 14.2% เนื่องจากการใช้สิทธิพิเศษภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) มีอัตราการขยายตัวต่อเนื่อง และผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรระยะที่ 2


อย่างไรก็ดี สินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก คือ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก