นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรีมอบให้กระทรวงการคลังหารมาตรการในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการโดยเฉพาะในกลุ่มคนชรา ในปีงบ 2562 มีการจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ถึง 1 แสนล้านบาทว่า ในเรื่องบประมาณนั้นสำนักงบประมาณเพิ่งสรุปตัวเลขที่ชัดเจน ดังนั้นสศค.จะนำตัวเลขดังกล่าวมาพิจารณาว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งในการให้ความช่วยเหลือนั้นจะ ดูว่าผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการ 11.4 ล้านคน และในกลุ่มที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมอีก 3 ล้านคนว่าต้องการอะไร จากขณะนี้ได้รับวงเงินเพื่อนำไปซื้อของร้านธงฟ้า ขึ้นรถเมล์ รถไฟ และวงเงินในการซื้อก๊าซหุงต้ม
“เจ้าหน้าที่สศค.กำลังนำความต้องการของผู้มีรายได้น้อยมาพิจารณาว่าเขาต้องการอะไรเพิ่ม และนำผลของสิ่งทำไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาประเมินว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้กำลังประเมินว่าผลของการอบรมอาชีพช่วยทำให้ผู้ที่เข้าอบรมมีรายได้ มีงานทำเพิ่มขึ้นเท่าใด โดยจะพยายามสรุปให้เร็ว คาดว่าจะไม่เกินภายในปีนี้” นายลวรณกล่าว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิดมอบนโยบายให้กระทรวงการคลังหามาตรการช่วยเหลือในกลุ่มผู้สูงอายุ ถือบัตรสวัสดิการที่มีอยู่ประมาณ 3.66 ล้านราย โดยในการช่วยผู้สูงอายุดังกล่าวนอกจากการเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชราแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะช่วยในเรื่องการรักษาพยาบาลนอกเหนือจากการรักษาบัตรทอง เช่น วงเงินไปรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพื่อผู้สูงอายุจะได้ไม่ต้องรอคิวที่โรงพยาบาลรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีแนวคิดช่วยเหลือค่าเดินทางให้กับผู้สูงอายุเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเดินทางไปรักษาพยาบาล
ที่มา มติชนออนไลน์