เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศแผนธุรกิจปี 2562 พบว่า นักลงทุนมีความกังวลต่อแผนงานที่ออกมา เนื่องจากมีการให้กรอบเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นมาที่ 3.3-3.7% จากปีนี้กรอบที่ 3.3-3.4% ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช้ดอกเบี้ยยังติดลบต่อเนื่องจากปีนี้ เพราะรายได้จากการโอนเงินหายไปหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ได้มีการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางดิจิทัล
โดยพบว่าราคาหุ้นของกสิกรไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ณ เวลา 15.30 น. อยู่ที่ 198.50 บาทจากเปิดตลาดที่ 204 บาท เป็นการปรับลดลงถึง 7.50 บาท หรือราว 3.64% ก่อนจะปรับขึ้นในช่วงก่อนปิดตลาด และปิดตลาดที่ 199 บาท ลดลง 7 บาท หรือ 3.40% ขณะที่การเคลื่อนไหวของหุ้นระหว่างวันราคาสูงสูดอยู่ 205 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 197.50 บาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า นักลงทุนอาจจะมีความกังวลกรณีที่เอ็นพีแอลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะจะมีผลต่อการตั้งสำรองหนี้เสียของธนาคารเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและจะกระทบให้กำไรธนาคารลดลงได้ แต่ปัจจุบันสถานการณ์เอ็นพีแอลทรงๆ ตัว ทั้งนี้ ต้นทุนการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญปี 2562 อยู่ที่เพียง 165% ลดลงจากปีนี้ที่ 185%
อย่างไรก็ดี ส่วนกรอบเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นมาจากธนาคารปรับแผนงานการบริหารจัดการเอ็นพีแอลโดยนำเอ็นพีแอลมาบริหารเพื่อสร้างรายได้ให้กับธนาคารทดแทนรายได้อื่นๆ ที่หายไป จากเดิมที่จะมีการขายเอ็นพีแอลออกไป ซึ่งจะเก็บหนี้เอ็นพีแอลบางส่วนโดยเฉพาะส่วนที่มีหลักประกันไว้บริหารจัดการเอง
ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจะยังคงลดลงจากผลกระทบการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และการขายประกันผ่านธนาคาร(แบงก์แอชชัวรันส์)
“ตัวเลขเป้าหมายดังกล่าวหากไม่ได้ดูในรายละเอียดก็อาจจะมีการเข้าใจผิดและเป็นเหตุผลให้ราคาหุ้นของธนาคารลดลงหลังการประกาศแผน” นายปรีดี กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์