Q3 กลุ่ม รพ.กำไรโตพุ่ง 28% สูงสุดรอบปี-ส่องทั้งปีโกย 1.7 หมื่นล้าน

โบรกเกอร์ 2 ค่าย “ฟินันเซียฯ-KTBST” ชี้กำไรหุ้นกลุ่ม รพ.ไตรมาส 3 โตแรง อานิสงส์ “อากาศเปลี่ยน ดันยอดคนไข้เพิ่ม” บวกกับโรคระบาดลากมายาวตั้งแต่ต้นปี ขณะที่คนไทยใส่ใจตรวจสุขภาพ คาดปีนี้ทั้งปีกำไรรวม 1.7 หมื่นล้านบาท ชี้ รพ.ขนาดกลาง-เล็กขยายลงทุน หนุนรับรู้รายได้เร็ว พร้อมส่องปีหน้าโตอีก 12%

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาล (รพ.) ในไตรมาส 3/61 ที่ผ่านมา ประเมินว่า กำไรสุทธิโดยรวมของกลุ่มนี้ (วิเคราะห์ครอบคลุม 7 บริษัทจดทะเบียน หรือ บจ.) เติบโตราว 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/61 (QOQ) และ 9% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ซึ่งถือเป็นปกติทุกปีที่จะเห็นไตรมาส 3 จะเติบโตดีที่สุดในรอบปี แต่อย่างไรก็ตาม ปีนี้ผลดำเนินงานของกลุ่ม รพ.มีสัญญาณที่ดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสแรกแล้ว เนื่องจากมีปัจจัยเอื้อให้กลุ่ม รพ. มีผลดำเนินงานที่ดี ทั้งจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง การเกิดโรคระบาดของไวรัสโรต้า ทำให้จำนวนผู้ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่และโรคไข้เลือดออกมีเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีที่แล้ว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้มีอำนาจในการใช้จ่ายที่ดีขึ้นด้วย

“ไตรมาส 4/61 เรามองว่าโมเมนตัมของกลุ่มโรงพยาบาลยังดีต่อเนื่อง และน่าจะทำให้กำไรเติบโตได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/61 และจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 4 ปีที่แล้วด้วย ซึ่งเราทำประมาณการปีนี้การเติบโตของกำไรโดยรวมในกลุ่ม รพ.ไว้ที่ 16% หรือมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และปีหน้าคาดว่า กำไรโดยรวมกลุ่มนี้จะโตราว 11% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท เราจัดหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เป็นหุ้น defensive (หุ้นที่ปลอดภัย) เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในปัจจัยสี่ของชีวิตคน จึงเป็นหุ้นที่มีลักษณะค่อนข้างมั่นคง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็จะมีผู้ป่วยมาใช้บริการ อีกทั้งนอกจากให้บริการรักษาอาการเจ็บป่วย ก็มีตรวจสุขภาพเพราะคนใส่ใจสุขภาพกันมาก และยังมีบริการเรื่องความงามอีก อีกทั้งไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ จะทำให้ความต้องการทางการแพทย์เติบโตขึ้นด้วย” นายวีระวัฒน์กล่าว

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจลงทุน บล.ฟินันเซียแนะนำว่า กลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่แนะนำ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 20% ขณะที่พบว่าราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มาก (laggard) ส่วนโรงพยาบาลขนาดกลางแนะนำ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) คาดเติบโต 28% และโรงพยาบาลขนาดเล็กแนะนำ บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) คาดปีนี้โต 20% หลังจากเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST กล่าวว่า ภาพรวมของกลุ่มโรงพยาบาลในไตรมาส 3/61 (ครอบคลุม 8 บจ.) คาดว่าจะออกมาดีกว่าทั้งช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า และปีนี้ทั้งปี คาดการณ์กลุ่ม รพ.จะสามารถทำกำไรโดยรวมได้ราว 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากปัจจัยหนุนเรื่องโรคที่มาตามฤดูกาลและโรคระบาดแล้ว ยังมีผู้ป่วยกลุ่มใหม่ของประเทศในแถบเอเชียที่เข้ามาทดแทนผู้ป่วยจากประเทศแถบตะวันออกกลางและประเทศจีนที่ลดลง ส่วนปีหน้า คาดการณ์ว่ากำไรโดยรวมของกลุ่ม รพ.อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 12.6% จากปี 61

ส่วนหุ้น รพ.ที่แนะนำ ได้แก่ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) คาดว่าไตรมาส 3 นี้ กำไรจะดีขึ้นจากโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (World Medical Hospital-WMC) ที่อยู่ในเครือ สามารถทำกำไรดีขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ ภาพรวมรายได้จากผู้ป่วยประกันชีวิตและผู้ป่วยที่จ่ายเงินสดยังดีขึ้นด้วย, บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) ที่คาดว่ากำไรเพิ่มขึ้นไตรมาส 3 นี้ มาจากการรับรู้การเปิดศูนย์เด็กหลอดแก้ว นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม รพ.ที่รับประกันสังคม อาทิ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) และ EKH ซึ่งไตรมาส 4/61 จะได้รับเงินประกันสังคมจากภาครัฐที่จ่ายเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ทำให้ภาพรวม รพ.กลุ่มนี้จะโตกว่าครึ่งปีแรกแน่นอน

“กลุ่มโรงพยาบาลแม้มีการเติบโตที่ไม่สูงมาก แต่ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง KTBST จะเน้นหุ้นโรงพยาบาลที่รับประกันสังคม และโรงพยาบาลที่มีการขยายงานโดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็ก ซึ่งจะรับรู้รายได้เร็วเนื่องจากแผนงานไม่ใหญ่มาก ได้แก่ BCH และ EKH ขณะที่ BDMS ที่มีแผนงานขนาดใหญ่จะใช้เวลาคืนทุนนาน” นายมงคลกล่าว