ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า หลังตัวเลขหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยสิ้นปีนี้

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/10) ที่ระดับ 33.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (29/10) ที่ระดับ 33.18/20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยในวันจันทร์ (29/10) การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันในเดือน ก.ย. โดยปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐปรับขึ้น 0.4% และดัชนีราคาค่าใชัจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ปรับขึ้น 0.2% ในเดือน ก.ย. หลังจากทรงตัวในเดือน ส.ค. ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้สหรัฐกำลังเตรียมที่จะประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่เหลือทั้งหมดในช่วงต้นเดือน ธ.ค. หากการเจรจาเรื่องสงครามการค้า ในเดือนหน้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนไม่สามารถคลี่คลายลงได้ โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.20-33.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/10) ที่ระดับ 1.1377/78 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (29/10) ที่ระดับ 1.1387/88 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยนางแอนเดีย นาห์เลส ผู้นำพรรค SPD ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็กของเยอรมนี ให้เวลาแก่พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีแอลเจลา เมอร์เคล จนถึงปีหน้าในการสร้างผลงานมากยิ่งขึ้น โดยพรรค SPD ขู่ที่จะยุติการร่วมรัฐบาล ถ้าหากยังไม่มีการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากทั้งพรรค SPD และพรรคอนุรักษ์นิยมต่างก็สูญเสียคะแนนโหวตในการเลือกตั้งในรัฐเอสเซอของเยอรมนีเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามนางเมอร์เคลโดนแรงกดดันในการเป็นผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในขณะที่อียูกำลังเผชิญกับปัญหาหลายประการ ซึ่งรวมถึงปัญหาเรื่อง Brexit, วิกฤตงบประมาณในอิตาลี และแนวโน้มที่พรรคการเมืองฝ่ายประชานิยมจะครองที่นั่งได้มากขึ้นในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในเดือน พ.ค.ปี 2019 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1359-1.1387 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1367/70 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/10) ที่ระดับ 112.50/51 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (29/10) ที่ 112.17/18 เยน/ดอลลาร์ โดยกระทรวงการค้าญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกวานนี้ (29/10) ปรับขึ้น 2.1% ต่อปีในเดือน ก.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน แต่อัตรา 2.1% นี้ชะลอตัวลงจากอัตราการเติบโตที่ 2.7% ต่อปีในเดือน ส.ค. โดยรายงานตัวเลขนี้บ่งชี้ว่า ปริมาณการบริโภคภาคครัวเรือนอาจะไม่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมากพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ชะลอตัวลง แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะชะลอการเติบโตลงเพียงชั่วคราวในไตรมาส 3 เนื่องด้วยผลกระทบจากภัยธรรมชาติในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงนี้จะทำให้นักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะสามารถหนุนอัตราเงินเฟ้อให้พุ่งขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ต่อปีได้หรือไม่ โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 112.31-112.86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 112.73/75 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (31/10) ดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซน (31/10) การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ โดยภาคเอกชน (31/10) ดัชนีการสำรวจผุ้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ โดย ISM (1/11) การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (2/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.5/-2.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 0.1/0.6 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ