JSP โชว์ยอดโอน 7 เดือน ทะลุ 2,550 ล้านบาท แถมตุน Backlog แล้วกว่า 3,800 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ทั้งปีแตะ 5,000 ล้านบาท

JSP มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตดี โชว์ยอดโอน 7 เดือน ทะลุ 2,550 ล้านบาท ตุน Backlog กว่า 3,800 ล้านบาท รับรู้รายได้ครึ่งปีหลัง 3,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปีแตะ 5,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 20% เตรียมผุด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 2,800 ล้านบาท โชว์ผลงาน Q2/60 ทุบสถิติใหม่ กวาดรายได้ 1,036.11 ล้านบาท โต 112.26% กำไรสุทธิ 6.48 ล้านบาท

นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2560 เชื่อว่ายังคงมีการเติบโตในทิศทางที่ดี โดยมีการปรับกลยุทธ์ชะลอเปิดโครงการใหม่ เร่งบริหารและระบายสต็อกสินค้าโครงการแนวราบ เพิ่มยอดขาย ปรับราคาขึ้น และเร่งโอน โดยโครงการที่บริษัทจะมุ่งเน้นทำตลาด อาทิ โครงการเจ ซิตี้ อัสสัมชัญ-ศรีราชา, เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง, เจ วิลล่า วงแหวนบางใหญ่ และ เจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) มียอดโอนอยู่ที่ 2,550 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 2,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 550 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของเป้ายอดโอนทั้งปีที่ 5,000 ล้านบาท และปัจจุบันมีแบ็กล็อกในมือกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในต้นปี 2561 โดยในปี 2560 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ที่ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ตามที่ตั้งเป้าไว้

อย่างไรก็ตามช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 แห่ง มูลค่ารวม 2,800 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ J Villa และ J City วงแหวนบางใหญ่ มูลค่า 2,100 ล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยวทำเลบางเสร่ ชลบุรี โดยจะเปิดขายเดือน พ.ย.นี้ มูลค่า 700 ล้านบาท นอกจากนี้ มีแผนนำแบบบ้านรุ่นใหม่เข้าตลาด ได้แก่ “อิงลิช ทาวน์โฮม” ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เปิดตัว J City สุขุมวิท แพรกษา มียอดขายในงาน 200 ล้านบาท และมีแผนเตรียมเปิดที่ J city รัตนาธิเบศร์ บางบัวทอง วันที่ 19-20 ส.ค.นี้

สำหรับไตรมาส 2/60 เป็นการทำสถิติผลประกอบการเติบโตสูงสุด โดยมีรายได้รวม 1,087.47 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 663.67 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 63.86% และมีกำไรสุทธิ 6.48 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรสุทธิลดลงเนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทฯเร่งการหากระแสเงินสดจากโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อลดภาระหนี้และปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น โดยที่ไตรมาส 3-2560 เป็นต้นไป บริษัทฯ ปรับราคาขายจากโครงการที่ประสบความสำเร็จในแนวราบ เพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2560 และ ไตรมาส 2 ปี 2559 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดโอนกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์เพื่อการจำหน่าย โดยในไตรมาส 2/60 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยอยู่ที่ 1,036.11 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 488.13 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 547.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.26% และมีรายได้จากการให้เช่าและบริการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับไตรมาส 2/2560 เท่ากับ 32.74 ล้านบาท หรือ 3.01% ของรายได้รวม ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไตรมาส 2/59 เท่ากับ 14.29 ล้านบาท

โดยผลประกอบการเติบโตเพิ่มขึ้น มีปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการ JSP City สุขุมวิท-แพรกษา, รังสิตคลอง1 บางปะกง-บ้านโพธิ์, ติวานนท์-บางกระดี และ J Grand (สาทร-กัลปพฤกษ์) จึงส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับยอดทำสัญญาใหม่ในครึ่งปีแรกมียอดรวม 3,600 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2560 มีรายได้รวม 2,131.08 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,202.95 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 77.15% และมีกำไรสุทธิ 54.68 ล้านบาท