
บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันภัยในประเทศไทย โชว์ศักยภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO ในจำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น ตั้งเป้านำเงินจากการระดมทุนเพื่อปรับปรุง และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ รับสังคมยุคดิจิทัล และรับการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัย ย้ำบริษัทมีศักยภาพพร้อมเติบโต จากอุตสาหกรรมประกันภัยที่เติบโตต่อเนื่อง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันภัย ภายใต้แนวคิด “TQM ไม่หยุดทำดีที่สุดเพื่อคุณ” เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้
ปัจจุบันบริษัทฯ แบ่งการดำเนินธุรกิจเป็น 4 ด้าน คือ 1.ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ให้บริการผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (“TQM Broker”) โดยมีการขายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยทั้งสิ้นกว่า 130 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มประกันรถยนต์ (Motor) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ และกลุ่มประกัน Non-Motor ในรูปแบบประกันอัคคีภัย ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และประกันวินาศภัยเบ็ดเตล็ด เป็นต้น
2.ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ดำเนินธุรกิจผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (“TQM Life”) ซึ่งมีการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทั้งสิ้นกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตประเภทรายบุคคลและประกันชีวิตประเภทกลุ่ม
3.ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ผ่านบริษัท แคสแมท จำกัด(“Casmatt”) ซึ่งครอบคลุมการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการทางธุรกิจ งานวิจัยตลาดดิจิตอล เป็นต้น
และ 4.ธุรกิจให้บริการด้านคำแนะนำเกี่ยวกับประกันภัย ผ่านบริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด (“TQLD”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วม เพื่อเป็นช่องทางให้กับลูกค้าในการค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูลประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลา ผ่านรูปแบบการกรอกข้อมูลของลูกค้า ทั้งนี้ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันภัยกว่า 40 แห่ง มีพนักงานขายที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าประกันภัยให้บริการกว่า 2,000 คน ผ่านสาขาและศูนย์บริการทั่วประเทศรวม 95 แห่ง ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันทำให้โอกาสเติบโตมีมาก นอกจากนี้ อัตราการทำประกันภัยในประเทศไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยจากข้อมูลรายงานธุรกิจประกัน ประจำปี 2559 ของ สวีส รีอินชัวร์รันส์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันชั้นนำของโลก พบว่าธุรกิจประกันของประเทศในทวีปเอเชีย ประเทศไทย มีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรวมทุกประเภทต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Insurance Penetration) ที่ 5.42% หากพิจารณาเบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) พบว่า ประเทศไทยมีเบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) เพียง 323.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน (GDP) ต่อจำนวนประชากร ต่ำกว่าประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ซึ่งผลดังกล่าวจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมประกันที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกในอนาคต โดยกลุ่มบริษัทซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย จึงไม่มีความเสี่ยงด้านการดำรงเงินกองทุนฯ และการบริหารผลตอบแทนจากเบี้ยประกันภัย
“ปัจจุบันรูปแบบการทำธุรกิจนายหน้าประกันภัยนั้นมีความท้าทายมากขึ้น ซึ่งบริษัทเห็นโอกาสนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้ดีมากยิ่งขึ้น จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินและรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยให้แก่บริษัทอย่างยั่งยืน” นางนภัสนันท์กล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยเป็นทุนที่ชำระแล้ว 225 ล้านบาทมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งในจำนวนนี้จะจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานบริษัท และ/หรือพนักงานบริษัทย่อย (ESOP) จำนวนไม่เกิน 11.25 ล้านหุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้น IPO ที่เสนอขายทั้งหมด และส่วนที่เหลือจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป
นางสาวพันทิตา แซ่เอ็ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวานิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เปิดเผยว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินโดยจะระดมทุนเพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงการสำหรับปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจ โดยลงทุนในระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) การเพิ่มทุนชำระแล้วในบริษัทแทน ได้แก่ TQM Broker และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทฯ
ทั้งนี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการนายหน้าประกันภัยปัจจุบันมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 2 บริษัท ได้แก่ TQM Broker ดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย และ TQM Life ดำเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันชีวิต