ธสน.ดันออฟชั่นช่วยชาติ 2 ชู 5 หมื่นบาท SME แก้เสี่ยง FX

เอ็กซิมแบงก์ ลุย “ออปชั่นช่วยชาติ เฟส 2” คิกออฟ 21 พ.ย.นี้ อัดวงเงินเพิ่มเป็น 5 หมื่นบาท/ราย ใช้ทดลองซื้อ FX Option ตั้งเป้า 5 พันราย ใน 1 ปี พร้อมเปิดสินเชื่อใหม่ “เติมทุนหมุนเวียน”เอสเอ็มอี

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้โครงการบริหารความเสี่ยง FX (อัตราแลกเปลี่ยน) ของ SMEs หรือ “ออปชั่นช่วยชาติ” ที่จะดำเนินการในระยะที่ 2 ได้ข้อสรุปแล้ว หลังโครงการเดิมสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.นี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562

ทั้งนี้ ออปชั่นช่วยชาติ เฟส 2 ได้ปรับเพิ่มวงเงินค่าธรรมเนียมสำหรับทดลองซื้อ FX Option ที่ให้แก่เอสเอ็มอีที่ร่วมโครงการเป็น 50,000 บาทต่อราย จากเดิม 30,000 บาทต่อราย โดยตั้งเป้าหมายมีเอสเอ็มอีร่วมโครงการ 5,000 ราย ซึ่งใช้วงเงินรวม 260 ล้านบาท

“ออปชั่นช่วยชาติ เฟส 2 เป็นโครงการต่อเนื่องที่จัดอบรมให้ความรู้ด้านการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้าเป็นหลัก เนื่องจากผู้ประกอบการจะมีปัญหาในการบริหารความเสี่ยงหลายจุด เช่น บริหารทางด้านบัญชีการเงิน การเข้าถึงแหล่งเงินและเครื่องมือทางการเงิน เป็นต้น ถึงแม้ว่าเฟสแรกจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการน้อยกว่าเป้าที่วางไว้ แต่ในเฟส 2 คิดว่าผู้ประกอบการจะเข้าร่วมมากขึ้น น่าจะเป็นไปตามเป้า เนื่องจากได้เพิ่มระยะเวลาเป็น 1 ปี” นายพิศิษฐ์กล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาการส่งออกของแคนาดา เพื่อส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทย-แคนาดา ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยขยายตลาดในแคนาดามากขึ้น เพราะเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมและการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างมาก

พร้อมกับเปิดให้บริการสินเชื่อรับซื้อตั๋วส่งออกอุ่นใจ (EXIM IBD GLOBAL) ซึ่งเป็นสินเชื่อหมุนเวียนหลังการส่งออกเพื่อผู้ส่งออก SMEs โดยให้วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย อัตรารับซื้อลด prime rate -2.00% ต่อปี ตลอดอายุโครงการ พร้อมวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (forward contract) สูงสุดเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ โดยมีเงื่อนไขผ่อนปรนใช้เพียงกรมธรรม์ประกันการส่งออกเป็นหลักประกัน และบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกัน

ทั้งนี้ ผู้กู้ต้องได้รับการอนุมัติกรมธรรม์ “ประกันการส่งออกสำหรับสินเชื่อรับซื้อตั๋วส่งออกอุ่นใจ” ซึ่งเป็นบริการสำหรับผู้ส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี โดยจะได้รับอัตราเบี้ยประกันต่ำสุด 0.35% และสูงสุดที่ 0.85% ของมูลค่าที่เอาประกันส่งออกภายใต้เทอมการชำระเงินสูงสุดไม่เกิน 120 วัน และให้ความคุ้มครองกว่า 137 ประเทศทั่วโลก โดยมีระยะเวลาอนุมัติตั้งแต่วันนี้-สิ้น พ.ย. 2562 นอกจากนี้ จะมีบริการพิเศษ เช่น ยกเว้นค่าวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อจำนวน 2 รายต่อกรมธรรม์ เป็นต้น

“จากสถานการณ์ความผันผวนของโลกที่มีมากขึ้น อาจส่งผลให้ผู้ซื้อในต่างประเทศได้รับผลกระทบและผิดนัดชำระค่าสินค้า ทำให้ผู้ส่งออกไทยกังวลในการทำการค้าระหว่างประเทศ เราจึงได้ออกสินเชื่อใหม่นี้ขึ้นมา โดยใน 1 ปีตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยให้กู้รายละ 10-20 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนลูกค้า 50-100 ราย” นายพิศิษฐ์กล่าว