ดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดจับตาผลเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/11) ที่ระดับ 32.92/94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (5/11) ที่ระดับ 32.97/98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากตลาดรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะเกิดขึ้นวันนี้ (6/11) และการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐดำรงตำแหน่งมาได้ครึ่งทาง (2 ปี จากวาระ 4 ปี) โดยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมจะมีการชิงที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 435 ที่นั่ง และวุฒิสภา 35 ที่นั่ง นอกจากนี้ ยังเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐใน 36 รัฐด้วย โดยนักลงทุนคาดว่าพรรคเดโมแครตมีแนวโน้มที่จะได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคาดว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาไว้ได้ นาแคธี เหลียน จากบริษัทบีเค แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า “ถ้าหากพรรครีพับลิกันยังคงมีอำนาจควบคุมทั้งทำเนียบขาวและสภาคองเกรสต่อไปตามเดิม ดอลลาร์ก็จะพุ่งขึ้น แต่ถ้าหากพรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ก็จะเกิดภาวะทางตันในการออกกฎหมาย และ ปธน.ทรัมป์จะประสบความยากลำบากในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ให้ผ่านสภาคองเกรส โดยปัจจัยนี้จะส่งผลลบต่อดอลลาร์ในระยะสั้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.92-33.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.93/95 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/11) ที่ระดับ 1.1412/13 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (5/11) ที่ระดับ 1.1377/80 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเรียกร้องในวันจันทร์ (5/11) ให้อิตาลีปรับเปลี่ยนงบประมาณประจำปี 2019 เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรป (อียู) ก่อนที่จะถึงกำหนดส่งในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี รัฐบาลอิตาลียืนกรานว่าอิตาลีจะไม่ปรับเปลี่ยนแผนงบขาดดุล ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1395-1.1425 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1420/24 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/11) ที่ระดับ 113.27/28 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อจันทร์ (5/11) ที่ 113.23/26 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นปรับตัวลงในเดือน ก.ย.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้อย่างมาก เป็นการบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ หลังจากที่เหตุแผ่นดินไหว และพายุไต้ฝุ่นกระทบการอุปโภคบริโภค ทั้งนี้การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนลดลง 1.6% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 1.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือน ส.ค. โดยญี่ปุ่นจะประกาศข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2 เนื่องจากการใช้จ่ายด้านทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ยอดส่งออกที่ชะลอตัว และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซาอาจกระทบจีดีพีไตรมาส 3 โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 113.20-113.44 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 113.22/24 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การเลือกตั้งรัฐสภาสหรัฐ (6/11) ปริมาณการสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐ (7/11) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (9/11) ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ (9/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.9/-1.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.56/0.44 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ