อธิบดีสรรพสามิตแจงเก็บภาษี”ความเค็ม-ไขมัน” อยู่ในขั้นศึกษา ชี้เจตนาดียกระดับคุณภาพ ไม่ใช่รัฐบาลถังแตก!

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต แถลงข่าวด่วนชี้แจงถึงกรณีมีข่าวว่า กรมสรรพสามิตกำลังจะจัดเก็บภาษีจากสินค้าที่มีความเค็มและความมัน โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ และเป็นเพียงข้อเสนอจากกรมสรรพสามิต ซึ่งต้องเสนอให้รัฐบาลให้ความเห็นชอบอีกที อย่างไรก็ดี แนวคิดเรื่องนี้เป็นไปตามแนวทางที่กรมมีการดำเนินงานที่สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ การส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เป็นอนาคตของประเทศ (New S-curve)

“เรื่องสุขภาพของคนในชาติก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่หวังจะช่วยลดภาระงบประมาณด้านค่ารักษาพยาบาลลงในอนาคต แต่ต้องย้ำว่า เรื่องเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นกรณีอาหารที่มีความมัน หรือไขมันทรานส์ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต หรือเรื่องความเค็มที่ทำให้เกิดโรคไต ก็ต้องใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาทในการรักษาแต่ละปี ทั้งหมดนี้ ทางกรมสรรพสามิตต้องการปรับตัวเองจากที่ถูกมองว่าเก็บแต่ภาษีบาป ไปสู่การส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้คนไทยมากขึ้น ไม่ใช่รัฐบาลถังแตก ไม่เกี่ยวเลย” นายพชรกล่าว

ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตตามปริมาณความเค็ม และ ปริมาณไขมันนั้น จะยึดแนวทางเดียวกับภาษีความหวานที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน โดยจะเน้นเก็บจากอาหารที่มีคนบริโภคมาก ๆ มีการผลิตเป็นอุตสาหกรรม ไม่ใช่เก็บจากชาวบ้านทั่วไป ขณะเดียวกันต้องมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดความเค็ม หรือมีไขมันอยู่ ยิ่งมากก็จะยิ่งถูกเก็บภาษีในอัตราที่มากขึ้นตาม แต่ในระยะแรกจะต้องให้เวลาปรับตัว ทั้งนี้ ต้องหารือกับผู้ผลิตต่อไป