ก.ล.ต.กระตุกคนต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ทการลงทุน“แอลทีเอฟ”เพื่อผลตอบแทนระยะยาว ไม่ใช่แค่เรื่องภาษี

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงการคลังให้ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) ศึกษาความเป็นไปได้กองทุนรูปแบบใหม่ที่จะมาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ที่จะหมดอายุโครงการสิทธิภาษีของกระทรวงการคลังในช่วงสิ้นปี 2562 ว่า ต้องเปลี่ยนแนวคิดหรือมายด์เซ็ทของคนว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่แค่ 5 ปี หรือ 7 ปี เพราะการลงทุนในหุ้นต้องลงทุนเป็น 10 ปี ไม่ใช่แค่ขายทำกำไร

นายรพีกล่าวว่า การลงทุนแอลทีเอฟทำเพื่อแค่ช่วยให้มีประสบการณ์การลงทุน และได้ผลตอบแทนจากตลาดทุน ไม่ใช่คิดแค่ในแง่ของการลดหย่อนภาษี

อย่างไรก็ตามถ้าเปรียบเทียบกับต่างประเทศ มีน้อยประเทศมากที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่ากับประเทศไทย ซึ่งจะเห็นว่ารัฐบาลยกเว้นภาษีผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (พีวีดี) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ตั้งแต่จ่ายเงินเข้ากองทุน ตลอดจนเมื่อเกษียณอายุแล้วก็ได้รับการยกเว้น เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากให้ห่วงแค่เรื่องยกเว้นภาษี แต่ควรจะคำนึงเรื่องผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่า

นายรพีกล่าวว่า ส่วนกฎหมายพีวีดีภาคบังคับ เป็นโจทย์สำคัญว่าลงทุนเป็นหรือไม่ มีจุดประสงค์การลงทุนที่ชักเจนหรือไม่อย่างไร ซึ่งตอนนี้ทุกคนอยากจะได้เงินก้อนเพื่อการเกษียณอายุ แต่ยังขาดเครื่องมือและความรู้ เพราะฉะนั้นเครื่องมือด้านนวัตกรรมหรือฟินเทคใหม่ๆ จะเป็นรูปแบบไฮบริด ผสมระหว่างการให้คำแนะนำที่เป็นตัวบุคคล กับการใช้เครื่องมือด้านเทคโนโลยี


ที่มา มติชนออนไลน์