ผลประกอบการหุ้นกลาง-ฟันโฟลว์ต่างชาติ-นักลงทุนปรับพอร์ต ทำดัชนีฯ ร่วงหนัก 13.67 จุด

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันที่ 12 พ.ย.61 ปิดตลาดที่ดัชนีฯ 1,654.85 จุด ปรับลดลง 13.67 จุด หรือปรับลดลง 0.82% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 28,826.34 ล้านบาท โดยการที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรงมาจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งที่ออกมาไม่ค่อยดี โดยเฉพาะบริษัทฯ ขนาดกลางที่เคยเป็นที่นิยมของนักลงทุนในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ราคาหุ้นของกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลดลงแรง เช่น TKN PTG ORI และ RS ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจและมีความกังวลต่อผลประกอบการในหุ้นขนาดกลาง

ส่วนปัจจัยทิศทางฟันด์โฟลว์ระยะสั้น แม้ในช่วงสัปดาห์ก่อนจะมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติติดต่อกัน แต่หากมองตลาดหุ้นในภูมิภาควันนี้กลายเป็นเป็นการขายสุทธิ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่กดดันค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ส่วนปัจจัยสุดท้าย คือ การปรับพอร์ตของนักลงทุนก่อนเข้าคำนวณดัชนี MSCI และการปรับน้ำหนักการลงทุนที่มีแนวโน้มลงทุนในหุ้นจีนมากขึ้นและลดการลงทุนในหุ้นอื่นๆ ลง จากปัจจัยที่กดดันตลาดจึงมองกรอบแนวรับดัชนีฯ พรุ่งนี้ที่ 1,630-1,650 จุด และกรอบแนวต้านที่ 1,670-1,680 จุด

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนักลงทุนเพิ่มความระวังผลประกอบการของบริษัทขนาดกลาง โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่สามารถคาดการณ์ผลประกอบการได้หรือบริษัทที่ได้ผ่านจุดสูงสุด (Peak) ไปแล้ว รวมถึงบริษัทที่มีมูลค่าพื้นฐาน (Valuation) สูงอาจมีแรงขายแรงเช่นกัน จากดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่อยู่ในขาขึ้นทำให้หุ้นที่มีราคาสูงอาจ Perform ยาก โดยให้น้ำหนักหุ้นที่ปลอดภัย ราคาไม่สูง และมีเงินปันผลให้นักลงทุนระหว่างถือมากกว่า เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มโรงไฟฟ้า กองทุนหุ้นปันผลสูง และกลุ่มพลังงาน ได้แก่ BBL KTB GUNKUL TTCL DIF และ JAS