ดอลลาร์รับแรงกดดันหลังคณะรัฐมนตรีอังกฤษลงอนุมัติร่าง Brexit

ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/11) ที่ระดับ 32.87/90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (14/11) ที่ระดับ 32.98/33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังคณะรัฐมนตรีอังกฤษได้ลงมติอนุมัติร่างข้อตกลง ว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนวาน (14/11) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนกันยายน

นอกจากนั้น นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความคิดเห็นว่า ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตได้ดีอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ และเชื่อว่าจะเติบโตได้อีกแม้มีปัจจัยที่น่าวิตกกังวลบ้าง โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ อีกทั้งความน่าจะเป็นในการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือนธันวาคมในปีนี้ (2561) ซึ่งประมาณการณ์โดยเครื่องมือ Fedwatch ของ CME group ในวันนี้ (15/11) อยู่ที่ร้อยละ 72.3 ทั้งนี้ระหว่างวัน ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.87-32.98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.97/98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/11) ที่ระดับ 1.1324/26 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (14/11) ที่ระดับ 1.1270/73 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรผันตัวหลังเมื่อคืนที่ผ่านมา (14/11) นายเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงการณ์ซึ่งยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีอังกฤษได้ลงมติอนุมัติร่างข้อตกลง Brexit เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากร่างข้อตกลงดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบร่วมกันระหว่างตัวแทนการเจรจาของอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13/11) แต่ร่างข้อตกลงดังกล่าวยังจะต้องถูกส่งให้รัฐสภาอนุมัติเป็นขั้นตอนต่อไป นอกจากนั้นมีรายงานตัวเลขผลการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายนของสหภาพยุโรปปรับตัวลดลงร้อยละ 0.3 ซึ่งลดน้อยกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 0.4 อีกทั้งยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมในไตรมาสที่ 3 ของสหภาพยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ซึ่งเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมในไตรมาสที่ 3 ของประเทศเยอรมนีปรับตัวลดลงร้อยละ 0.2 ซึ่งลดลงมากกว่าร้อยละ 0.1 ซึ่งเป็นระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1347 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1318/21 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/11) ที่ระดับ 113.52/54 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (14/11) ที่ 113.88/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนแข็งตัวตามแรงเทขายดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้เมื่อวานมีการรายงานตัวเลขผลการผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนกันยายนของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงร้อยละ 0.4 ซึ่งลดลงน้อยกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 1.1 อีก ทั้งยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมในไตรมาสที่ 3 ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงร้อยละ 0.3 เท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 113.41-113.67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 113.31/33 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดการค้าปลีกของสหรัฐ (15/11) ผลสำรวจดัชนีอุตสาหกรรมในนิวยอร์ค (15/11) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (15/11) แถลงการณ์ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา (16/11) การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.ของสหรัฐ (16/11) แถลงการณ์ประธานธนาคารกลางยุโรป (16/11) และแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (16/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.00/-1.80 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 0.20/0.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

 

รับข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
อย่าลืมกดติดตาม และกดปุ่ม See first (เห็นโพสต์ก่อน)
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

ติดตามอ่านข่าวสารจากประชาชาติออนไลน์ ทันสมัย-ทันใจ
ดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่น >> Prachachat << ได้แล้ววันนี้
ทั้งระบบ ios และ android

อ่านประชาชาติธุรกิจ ทั้งฉบับผ่าน e-Newspaper
ได้ที่แอปพลิเคชั่น Ookbee เลือก “ประชาชาติ”