CMC เข้าเทรดวันแรกต่ำจอง 13%

บมจ.เจ้าพระยามหานคร (CMC) เทรดวันแรกต่ำของ 13% บล.เมย์แบงก์ฯ ที่ปรึกษาการเงินชี้เป็นผลจากบรรยากาศหุ้นไอพีโอยังแย่

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าวันนี้ บมจ.เจ้าพระยามหานคร (CMC) ได้เปิดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก ซึ่งพบว่าราคาหุ้นช่วงเปิดอยู่ที่ระดับ 2.62 บาท หรือปรับตัวลดลงราว 13% จากราคาจองซื้อไอพีโอที่ 3.00 บาท

นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ้าพระยามหานคร (CMC) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้จำหน่ายหุ้นไอพีโอประมาณ 30% ให้นักลงทุนสถาบันชั้นนำของไทย อาทิ กองทุน MFC และกองทุน KTAM และ กลุ่มผู้บริหารได้นำหุ้นเดิม ติดไซเลนท์พีเรียดเต็มโควตา 55% และยืนยันจะไม่ขายหุ้นในส่วนที่ไม่ติดไซเลนท์พีเรียด ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้วางแผนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 10 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่มีความต้องการซื้อคอนโดสูงขึ้น และเพื่อให้รายได้มีการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ CMC เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง จะเป็นหุ้นที่เติบโตต่อเนื่องในอนาคต ให้ผลตอบแทนที่ดี นักลงทุนจึงมั่นใจได้เต็มที่

ในการนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปลงทุนพัฒนาโครงการในอนาคต ทั้ง 10 โครงการ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ตลอดจนชำระหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันต้นทุนทางการเงินเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับบริษัทฯ โดยคาดว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนทางการเงินและยกระดับผลประกอบการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

“เราคาดว่าปีนี้บริษัทจะสามารถเติบโตตามเป้าที่วางไว้โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% รวมถึง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้กว่า 186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165% จากกำไรสุทธิปีที่แล้วที่ 70 ล้านบาท และในปี 2562 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตในเลขสองหลัก (double digit growth) เช่นกัน ส่วนงานในมือ (Backlog) มูลค่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ภายในปีนี้ และอีก 5 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในปีหน้า” นายแพทย์วิเชียร์ กล่าวเสริม

ด้าน นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เจ้าพระยามหานคร (CMC) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น CMC ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 19 พ.ย.61 เป็นวันแรก ต่ำกว่าราคาไอพีโอเป็นผลจากปัจจุบันบรรยากาศของหุ้นไอพีโอไม่ค่อยดีนัก อย่างไรก็ตาม จากที่บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่ดี มีอัตราการเติบโตสูงติดต่อกันใน 10 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ โครงการระหว่างก่อสร้าง และโครงการที่มีแผนจะเปิดขายและพัฒนาใหม่ รวมประมาณ 16,000 ล้านบาท รวมถึงมีที่ดินเปล่า (Land Bank) มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในแง่ของนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหรือลงทุน ส่วนบรรยากาศของหุ้นไอพีโอที่ไม่ค่อยดีอาจทำให้นักลงทุนขยับช่วงลงทุนจากวันแรกที่เข้าซื้อขายไปเป็นช่วงอื่น โดยดูตามสถิติคาดว่าในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าบรรยากาศหุ้นไอพีโอที่เข้าซื้อขายในตลาดจะมีกลับมาดีขึ้น

ทั้งนี้ CMC ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย คอนโดมีเนียม ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอาคารชุดคอนโดมิเนียมเป็นหลักและส่วนใหญ่อยู่ในทำเลตามแนวสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภายใต้ชื่อแบรนด์ “แบงค์คอก ฮอไรซอน” “แบงค์คอก เฟ’ลิซ” และ “ชาโตว์ อินทาวน์” ปัจจุบันบริษัทมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างขายทั้งหมด 25 โครงการมูลค่าประมาณ 4,100 ล้านบาท โครงการระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาท และโครงการในอนาคต 10 โครงการที่คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในช่วง 3-4 ปีนี้ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท


โดย CMC มีทุนชำระแล้ว 1,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 750 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) 250 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 12.30 ล้านหุ้น บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทไม่เกิน 2 ล้านหุ้น พนักงานของกลุ่มบริษัทไม่เกิน 2.58 ล้านหุ้นและบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ หรือ ผู้ลงทุนสถาบันไม่เกิน 233.12 ล้านหุ้น มีกำหนดเสนอขายระหว่างวันที่ 8-13 พฤศจิกายน 2561 ในราคาหุ้นละ 3 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 750 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,000 ล้านบาท โดยมี บมจ. หลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรับหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมกันกับ บมจ. หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป