กรุงไทยชี้แจงการเป็นกรรมการเอิร์ธ กสิกรเผยแต่ละแบงก์ต่างเข้าเจรจา หลังศาลไม่รับแผนฟื้นฟู

ตามที่ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ มีมติการประชุมคณะกรรมการบริหารของบริษัท ครั้งที่ 1/2561 ที่ประสงค์จะเรียนเชิญให้ตัวแทนจากธนาคารกรุงไทยมาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และตัวแทนผู้บริหารแผนซึ่งธนาคารกรุงไทยเป็นผู้เสนอ คือ นายนพรัตน์ อาจคงหาญ มาเป็นประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ ตามที่บริษัทได้แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 นั้น ธนาคารกรุงไทยขอเรียนชี้แจงว่า ธนาคารกรุงไทยมิได้มีการหารือกับ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ธนาคารขอเรียนเพิ่มเติมว่า ธนาคารเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือตั๋วแลกเงิน และเจ้าหนี้สถาบันการเงินอื่นๆ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารได้ดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญากับบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูกิจการ โดยธนาคารได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 แล้ว และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของ DSI ซึ่งธนาคารเชื่อมั่นว่าการดำเนินการทางกฎหมายดังกล่าวจะนำไปสู่ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง เพื่อให้เจ้าหนี้ต่างๆ มีโอกาสได้รับชำระหนี้ตามสัดส่วนอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งไม่เห็นชอบกับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ทำให้ปัจจุบัน ธนาคารเจ้าหนี้แต่ละธนาคารต่างก็เจราจากันเองกับลูกหนี้ ซึ่งไม่ได้มีการหารือกันระหว่างธนาคาร โดยในส่วนของธนาคารกสิกรในฐานะเจ้าหนี้ที่มีมูลหนี้ 3,800 ล้านบาท ก็ได้มีทีมงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจาเพื่อหาทางออกอยู่แล้ว
“ถ้าดูแล้วว่าสภาพธุรกิจยังดีอยู่ และชำระหนี้ได้ ก็ปรับโครงสร้างหนี้กันไป แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องฟ้อง” นายปรีดีกล่าว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนเจ้าหนี้และจำนวนหนี้มีเยอะ จึงอาจจะไม่ง่ายนักที่จะคุยกัน เพราะลูกหนี้ก็ต้องคุยกับเจ้าหนี้หลายราย ทั้งนี้ ถ้าหากกลายเป็นหนี้เสีย มองว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ แต่ต้องแก้ไขให้ดีที่สุด และธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้ครบ 100% นานแล้ว