ขุนคลังชี้ขึ้นดอกเบี้ยต้องระวัง หวั่นต้นทุนประเทศพุ่ง ระบุขึ้น 0.25% เพิ่มเป็นหมื่นล้านบาท แจง Policy Space เอฟเฟ็กต์น้อย
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า การส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ยของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น ก็เป็นไปตามหน้าที่ แต่การจะขึ้นดอกเบี้ยนั้นต้องคำนึงถึงหลาย ๆปัจจัย ไม่ใช่แค่จะขึ้นตามคนอื่น
“ต้องดูหลายปัจจัย แต่สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด เป็นเรื่องความมั่นคงทางด้านการเงินที่จะเป็นตัวหลักที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะปล่อยให้เกิดปัญกาความปั่นป่วนในเรื่องภาระทางการเงินไม่ได้ อันนี้ต้องถือเป็นหลัก แล้วปัจจัยอื่นก็เช่น ผลกระทบต่อการลงทุนจะมีไหม ถ้าขึ้นดอกเบี้ย เพราะสิ่งเหล่านี้ถ้าเกิดขึ้นมา แล้วจำเป็นต้องดูแลความมั่นคง ก็ต้องเอาการคลังมาช่วยชดเชยได้” นายอภิศักดิ์กล่าว
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในประเด็นความมั่นคงทางการเงินนั้น ธปท.จะต้องประเมินดูเอง อย่างเช่น เกิดเงินไหลออกมาก หรือค่าเงินตกอย่างรวดเร็วจนคุมไม่อยู่ ซึ่ง ธปท.ต้องพิจารณา
“เขาต้องดู เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง จะมีต้นทุน การขึ้นดอกเบี้ยแต่ละครั้งมีต้นทุน ขึ้น 0.25% ก็เป็นต้นทุนของประเทศหลายหมื่นล้านบาท เป็นต้นทุนของ ธปท.เองก็หลายหมื่นล้านบาท”
ส่วนเรื่องที่ต้องมีช่องว่างทางนโยบาย (Policy Space) ไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคตนั้น รมว.คลัง กล่าวว่า เวลาเกิดเหตุขึ้นจริง ๆด้านการเงินช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะมีเอฟเฟ็กต์น้อย