กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแตะ 1.75% แบงก์ไทยอั้นไม่ขึ้นดอกเบี้ยกู้

แฟ้มภาพ
นายแบงก์ประสานเสียงไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย แม้ กนง.ปรับขึ้น 0.25% “บัณฑูร” ชี้กสิกรฯ สภาพคล่องสูง ห่วงกระทบประชาชน ฟากกรุงศรีฯ คาดถึงสิ้นปีหน้าดอกเบี้ยนโยบายจบที่ 2% ชี้ค่าเงินบาทปีหน้าแข็งค่าสุดรอบ 5 ปี แตะ 30.75 บาท/ดอลลาร์

วันนี้( 19 ธันวาคม 2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง) จะมีการประชุมครั้งที่ 8/2561 ตลาดการเงินมีการประเมินว่า กนง.จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากปัจจุบัน 1.50% สู่ระดับ 1.75% ซึ่งหากมีการปรับขึ้นจริงจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรก หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% มายาวนานตั้งแต่การลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2558 หรือในการประชุม 28 ครั้ง ระยะ 3 ปีกว่า และจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในระยะการประชุม 57 ครั้ง หรือระยะเวลา 7 ปีโดยประมาณ

นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบสุดท้ายปี 2561 นี้ (19 ธ.ค.) อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% โดยในแง่ผลกระทบต่อต้นทุนทางการเงินของแบงก์นั้น ในระยะแรกยังไม่กระทบมาก แต่ผ่านไประยะหนึ่งก็อาจต้องพิจารณา

“ตอนนี้สภาพคล่องไทยยังมีเยอะ ส่วนการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินฝาก ของธนาคารต้องขึ้นอยู่กับสมาคมธนาคารไทยด้วย ต้องปรึกษากัน” นายเดชากล่าว

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เป็นการตัดสินใจของ กนง. แต่หากรอบนี้ปรับขึ้น แบงก์กสิกรไทยก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยตาม เพราะสภาพคล่องยังดี โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ต้องรีบขึ้น เพราะประชาชนจะทำมาหากินลำบาก ทั้งนี้ ธนาคารจะไม่เป็นผู้นำในการขึ้นดอกเบี้ย และจะดูทิศทางของธนาคารอื่น ๆ ก่อนด้วย

“ถ้าขึ้นเงินฝากก็กลัวเงินกู้แพง และคิดว่าทรงแบบเดิมก็อยู่ได้”

นายบัณฑูรกล่าวด้วยว่า ปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจจะทรงตัว ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง ด้านสงครามทางการค้า และส่วนของการกระจายตัวไปสู่รากหญ้ายังคงไม่ทั่วถึงอยู่ เพราะคนระดับมีความรู้มากกว่า ซึ่งอาจต้องแก้ด้วยโครงสร้างภาษีและการเข้าถึงตลาดวิธีต่าง ๆ ดังนั้นใครเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็มีหน้าที่ดูแลเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า มีโอกาสที่ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้ตามที่ส่งสัญญาณ ซึ่งแนวโน้มคาดว่าจะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเพิ่มไปอยู่ที่ 1.75% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และช่วงต้นปีหน้าอีก 1 ครั้ง และคงไว้ตลอดทั้งปีที่ระดับ 2%

“ส่วนแบงก์คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามทันที เนื่องจากสภาพคล่องและต้นทุนทางการเงินยังมีสูงอยู่ แต่อาจปรับขึ้นในปีหน้า” นายตรรกกล่าว

นายตรรกกล่าวอีกว่า ปีหน้าคาดว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าที่ 30.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งที่สุดรอบ 5 ปี จาก ต.ค. 2556 ที่ราว 31.00 บาท เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่า