ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม 2561 ว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/12) ที่ระดับ 32.74/76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (16/12) ที่ระดับ 32.70/71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นร้อยละ 0.25 สู่ระดับ 2.25-2.50 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีีนี้ อย่างไรก็ตามได้ปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าลง เหลือ 2 ครั้ง จากเดิมที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง

นอกจากนั้นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับร้อยละ 3.0 จากเดิมที่ร้อยละ 3.1 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีหน้าสู่ระดับร้อยละ 2.3 จากเดิมที่ร้อยละ 2.5 ส่วนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ ในปี 2563 ยังคงอยู่ที่ระดับร้อยละ 2 และตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ ในปี 2564 ยังคงอยู่ที่ระดับร้อยละ  1.8 นอกจากนั้นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวในระยะยาว สู่ระดับร้อยละ 1.9 นอกจากนั้น ยอดค้าบ้านมือสองในสหรัฐประจำเดือนพฤศจิกายน ประกาศออกมาอยู่ที่ 5.32 ล้านหลัง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ที่ 5.2 ล้านหลัง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.67-32.78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.67/69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/12) ที่ระดับ 1.1383/84 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (19/12) ที่ระดับ 1.1386/87 ดอลลาร์สหรัฐ/
ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าจากการที่นักลงทุนมีความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ เงินดอลลาร์สหรัฐ จากความกังวลเกี่ยวกับการเิบโตของเศรษฐกิจโลกหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงการณ์ปรับลดตัวเลขททางเศรษฐกิจหลายตัว และลดการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2562 จาก 3 ครั้งเป็น 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อวาน (19/12) มี่รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมนีประจำเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมที่ร้อยละ 0.1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 0.1 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1369-1.1482 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1472/74 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/12) ที่ระดับ 112.52/54 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (19/12) ที่ 112.38/40 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนอ่อนค่าสวนทางกับเงินดอลลาร์ หลังนักลงทุนเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากธนาคารกลางสหรัฐประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปี 2562 อีกทั้งมีรายงานดุลการค้าของประเทศญี่ปุ่นออกมาอยู่ที่ขาดดุล 7.37 แสนล้านเยน ซึ่งขาดดุลสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะขาดดุลอยู่เพียง 6.3 แสนล้านเยน นอกจากนั้นในวันนี้ (20/12) ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ -0.1 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 111.68-112.60 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.71/72 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ การประชุมนโยบายเงินของธนาคารอังกฤษ (20/12) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (20/12) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหราชอาณาจักรรวม 3 ไตรมาส (21/12) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของสหรัฐ รวม 3 ไรมาส  (21/12) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในสหรัฐประจำเดือนพฤศจิกายน (21/12) และรายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐประจำเดือนพฤศจิกายน (21/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.90/2.60 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.63/0.13 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ