การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนเป็นไปด้วยดี หนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 9 มกราคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/1) ที่ระดับ 32.00/32.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (8/1) ที่ระดับ 32.07/09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากมีความหวังเรื่องผลเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยวานนี้ (8/1) ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนกำลังดำเนินไปเป็นอย่างดี ขณะที่นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งเป็นข้อตกลงที่จะแก้ไขความขัดแย้งทุกอย่าง

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณหรือภาวะชัตดาวน์ ซึ่งดำเนินมาแล้ว 18 วัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวแถลงการณ์จากห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ต่อชาวอเมริกันทั่วประเทศในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย เพื่อเรียกร้องให้สภาอนุมัติงบประมาณ 5,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างกำแพงเหล็กกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก โดยทรัมป์กล่าวว่า การอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกนี้ จะเป็นการยุติวิกฤตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงที่กำลังทวีสูงขึ้น พร้อมกันนั้นทรัมป์ยังชี้ว่าภาวะชัตดาวน์ปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราวที่ยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้เป็นเพราะพรรคเดโมแครตที่ขัดขวาง โดยระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.99-32.07 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.00/32.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/1) ที่ระดับ 1.1460/62 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (8/1) ที่ระดับ 1.1445/47 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรและปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) รวมทั้งเศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัว โดยวานนี้มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยูโรโซนปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยปรับลดลงสู่ระดับ 107.3 ในเดือน ธ.ค. จากระดับ 109.5 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 108.2 ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซนปรับลดลงสู่ระดับ -6.2 ในเดือน ธ.ค. จากระดับ -3.9 ในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ก็สะท้อนให้เห็นว่าเยอรมนีมีความเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1436-1.1479 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1460/62 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/1) ที่ระดับ 108.80/82 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (8/1) ที่ 108.72/74 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากนักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.79-108.98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.84/86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (10/1) การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือน พ.ย. (10/1) ยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ย. (10/1 สต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน พ.ย. (10/1) อัตราเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. (11/1)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.25/-2.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.8/-3.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ