เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าหลังการเจรจาทางการค้าเป็นไปได้ด้วยดี

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (10/1) ที่ระดับ 31.93/95 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (9/1) ที่ระดับ 32.00/02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนซึ่งมีระยะเวลาติดต่อกันเป็นเวลา 3 วันที่กรุงปักกิ่งของจีนได้สิ้นสุดลงด้วยดีในคืนวันพุธ (9/1) จากเดิมที่มีกำหนดเพียงแค่ 2 วัน โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยว่า จีนได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะซื้อสินค้าจำนวนมากจากสหรัฐ ทั้งในด้านการเกษตรและพลังงาน รวมทั้งสินค้าในภาคการผลิตและบริการด้วย ซึ่งทาง USTR จะหามาตรการเพื่อทำให้มั่นใจว่า จีนจะดำเนินการตามที่ให้สัญญาไว้จริงหลังจากการเจรจาเสร็จ

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการระบุว่า จีนและสหรัฐจะประชุมร่วมกันเพื่อเจรจาต่อรองเพิ่มเติมอีกเมื่อใด นอกจากนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (9/1) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 18-19 ธันวาคม 2561 โดยระบุว่า เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนที่สูงขึ้นในตลาดหุ้นของสหรัฐ, ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และอัตราเงินเฟ้อของสหรับ ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเฝ้าดูสถานการณ์ต่าง ๆ และจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ในปี 2562 เหลือเพียง 2 ครั้งจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้น 3 ครั้ง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.87-31.97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.92/94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (10/1) ที่ระดับ 1.1552/54 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ ผ9/1) ที่ระดับ 1.1459/61 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนจบลงด้วยดี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมีความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น นอกจากนั้นเมื่อวานนี้ (9/1) มีรายงานอัตราการว่างงานในสหภาพยุโรป ประจำเดือนพฤศจิกายนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7.9 ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 8.1 อีกทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศสประจำเดือน ธันวาคม 2561 ออกมาอยู่ที่ 87 ต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 90 และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสในเดือนพฤศจิกายนลดลงร้อยละ 1.3 จากเดือนตุลาคม ซึ่งต่ำกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะคงที่จากระดับในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1570-1.1516 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1523/25 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (10/1) ที่ระดับ 108.14/16 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (9/1) ที่ 108.91/93 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินเยนแข็งค่าขึ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมในรอบเดือนธันวาคม 2561 ซึ่งแสดงถึงความกังวลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และส่งผลให้นักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ และเข้าถือเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.76-108.25 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.06/08 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (10/1) อัตราเงินเฟ้อประจำเดือนธันวาคมของสหรัฐ (11/1) การใช้จ่ายภาคครัวเรือนประจำเดือนพฤศจิกายนของญี่ปุ่น (11/1) ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศประจำเดือนพฤศจิกายนของสหราชอาณาจักร (11/1) และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนพฤศจิกายนของสหราชอาณาจักร (11/1)

สำหรับอัตราป้องก้นความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่  -2.20/-2.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.00/-2.80 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ