ตลาดจับตา Brexit ขณะที่เงินดอลลาร์ถูกกดดันจากประเด็นการเมือง

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดปริวรรตเงินตราระหว่างวันที่ 14-18 มกราคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดในวันจันทร์ (14/1) ที่ระดับ 31.90/92 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (11/1) ที่ระดับ 31.91/93 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ต้องเผชิญแรงกดดันจากทั้งแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนเรื่องการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล (Government Shutdown) โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนธันวาคม โดยปรับตัวลดลง 0.1% ช่วงระหว่างสัปดาห์ค่าเงินดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณ ซึ่งดำเนินมาแล้ว 26 วัน โดยนักลงทุนรวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลายราย ได้แสดงความเห็นถึงภาวะชัตดาวน์ว่าอาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจสหรัฐ ในไตรมาสแรกชะลอตัว

นอกจากนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐ ได้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนธันวาคม โดยปรับตัวลดลง 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ในวันพุธ (16/1) เฟดได้เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “Beige Book” โดยระบุว่าตลาดแรงงานทั่วทุกเขตในสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงต้องการแรงงานคุณภาพมากขึ้น ส่วนค่าจ้างโดยทั่วไปมีการขยายตัวปานกลาง และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐนั้น มีเพียงแค่เฟดสาขาชิคาโกที่รายงานถึงผลกระทบโดยระบุว่า เกษตรกรกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากความล่าช้าในการเปิดเผยข้อมูลด้านการเกษตรของรัฐบาล และมีความล่าช้าในส่วนของจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเขาเนื่องจากหน่วยงานรัฐบาลปิดทำการ ในช่วงปลายสัปดาห์กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยปรับตัวลดลงมาที่ 2.13 แสนราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายยังมีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจของไทย โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2562 จะขยายตัวได้ 4% แม้ปัจจัยภายนอกจะมีความเสี่ยงมากขึ้น นอกจากนี้ ธปท.มองว่าการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐที่มีทิศทางที่ดีขึ้น จะช่วยลดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดได้ ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 4% เช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากการเร่งลงทุนภาครัฐและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ระหว่างสัปดาห์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-31.99 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดในวันศุกร์ (18/1) ที่ระดับ 31.70/72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่เางินยูโรนั้น เปิดตลาดในวันจันทร์ (14/1) ที่ระดับ 1.1468/69 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (11/1) ที่ระดับ 1.1522/23 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมาเตือนว่า อังกฤษอาจประสบปัญหาครั้งใหญ่ หากรัฐสภาไม่ลงความเห็นสนับสนุนข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยค่าเงินยูโรและปอนด์ปรับตัวอ่อนค่าลงหลังจากรัฐสภาอังกฤษลงมติค้านร่างข้อตกลงในการถอนตัวจากการเป็นสาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ ทั้งนี้รัฐสภาอังกฤษได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 432 ต่อ 202 เสียง ปฏิเสธร่างข้อตกลง Brexit ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์การเมืองของอังกฤษเผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) และนักการเมืองต่างออกมาแสดงความผิดหวังภายหลังจากที่ทราบผลการลงคะแนน

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ร่างข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา นายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนางเทเรซา เมย์ ต่อทันที อย่างไรก็ดีสมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษยังลงมติให้ความไว้วางใจเธออยู่ นอกจากนี้ผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ นายมาร์ค คาร์นีย์ ได้แถลงว่า นักลงทุนในตลาดยังเชื่อว่าเงื่อนไขในข้อตกลง Brexit อาจได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคขอเยอรมนีในเดือนธันวาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เท่ากับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์นี้ ค่าเงินยูโรมีการเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.1367-1.1491 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดในวันศุกร์ (18/1) ที่ระดับ 1.1390/92 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน เปิดตลาดในวันจันทร์ (14/1) ที่ระดับ 108.41/43 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (11/1) ที่ระดับ 108.31/33 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างสัปดาห์รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลง 0.02% หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 7.6% ในเดือนตุลาคม สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ชะลอการลงทุนเนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ขณะที่วันศุกร์ (18/1) รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่าคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ ได้อนุมัติร่างงบประมาณประจำปี 2562 ฉบับใหม่ หลังจากทำการแก้ไขเพื่อเพิ่มงบประมาณจำนวน 650 ล้านเยน หรือประมาณ 6 ล้านดอลลาร์เข้าไปเนื่องจากกระทรวงแรงงานจัดพิมพ์ข้อมูลด้านการจ้างงานผิดพลาด ทั้งนี้ในระหว่างสัปดาห์ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.97-109.44 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดในวันศุกร์ (18/1) ที่ระดับ 109.33/36 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ