ประกาศเลือกตั้ง หนุนหุ้นไทยบวกกว่า 16 จุด

นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 23 ม.ค.62 ปิดตลาดที่ดัชนี 1,671.38 จุด เพิ่มขึ้น 15.61 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.97% และมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 67,874.58 ล้านบาท

โดยตลาดหุ้นวันนี้ปรับเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังได้รับปัจจัยหนุนจากการเมืองในประเทศ ได้แก่ การประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งในช่วงเช้า สำนักนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงบ่าย และท้ายสุดในช่วงก่อนปิดตลาด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติออกมาให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่ากกต.จะเปิดเผยวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 5 วัน

นักวิเคราะห์เสริมว่า 15 วันต่อจากนี้ จะมีการเปิดรับสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองต้องแจ้งชื่อนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค ซึ่งจะทำให้เห็นเค้าลางของว่าที่นายกรัฐมนตรีชัดเจนยิ่งขึ้น ปัจจัยการเมืองในประเทศเหล่านี้จึงเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดหุ้นไทยปิดบวก และปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน

ส่วนแนวโน้มในวันพรุ่งนี้(24 ม.ค.62) หลังดัชนีในวันที่ 22-23 ม.ค.62 ปรับเพิ่มขึ้นราว 30 จุด ดังนั้นแม้ตลาดหุ้นยังมีโมเมนตัมเชิงบวก แต่อัพไซด์ (Upside) เริ่มจำกัด จึงประเมินกรอบเคลื่อนไหวดัชนีไว้ที่แนวต้าน 1,625 จุด และให้แนวรับแรกไว้ที่ 1,610 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,600 จุด กล่าวคือ ประเมินว่าดัชนีสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อ แต่อาจปรับเพิ่มขึ้นเบากว่าวันนี้


ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากประเด็นการเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่วันนี้เห็นราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างสูง STEC และ CK กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีการประกาศงบไตรมาส 4/61 และราคาหุ้นฟื้นตัวค่อนข้างมากแนะนำ BBL และ KBANK กลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเลือกตั้งเช่นกัน แนะนำ ROBINS BJC และ CPALL กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มไอซีที (ICT) ที่มีปันผลค่อนข้างสูงแนะนำ QH LH ADVANC และ DTAC ส่วนกลุ่มสุดท้ายแนะนำกลุ่มพลังงาน แม้ไม่ได้อานิสงส์จากการเลือกตั้ง แต่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แนะนำราคาหุ้นย่อตัวลงจึงเข้าซื้อสะสม