เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 9 เดือน

แฟ้มภาพ
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 9 เดือน ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นหลังผลประชุมเฟด กสิกรไทยคาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาผลประชุมกนง. 6 ก.พ.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า  เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 9 เดือนที่ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังการประชุมเฟด โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ และทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขาย ท่ามกลางสัญญาณชะลอการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยเฟดได้ปรับเปลี่ยนข้อความที่เคยระบุถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป มาเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการดำเนินนโยบายการเงินด้วยความระมัดระวัง

ในวันศุกร์ (1 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.27 เทียบกับระดับ 31.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ม.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (4-8 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.10-31.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (6 ก.พ.) ขณะที่ปัจจัยสำคัญในต่างประเทศ ประกอบด้วย ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ ความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย ยอดคำสั่งซื้อภาคโรงงาน ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ และประเทศชั้นนำอื่นๆ ของโลก

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,651.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.71% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 8.51% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 50,934.62 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ขยับขึ้น 2.84% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 381.93 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ นักลงทุนรอติดตามความคืบหน้าของประเด็น BREXIT และผลการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้รับอานิสงส์จากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรอบล่าสุด ที่ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุป แต่มีความคืบหน้าและเป็นไปในทิศทางที่ดี
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (4-8 ก.พ.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,625 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,660 และ 1,680 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของกนง. (6 ก.พ.) ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดรวมถึงเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ตลอดจนผลประกอบการไตรมาส 4/61 ของบริษัทจดทะเบียน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคบริการ เดือนม.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางออสเตรเลีย ตลอดจนดัชนี PMI Composite เดือนม.ค. ของประเทศแถบยุโรป

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!