หุ้น-การเงิน

ตลท.เทสต์แพลตฟอร์มใหม่ เทรดสินทรัพย์ดิจิทัลกลางปี

ตลาดหลักทรัพย์ฯปักธงดันตลาดหุ้นไทยขนาดใหญ่แตะ 30 ล้านล้านบาทในปี 2566 โต 150% ของจีดีพี พร้อมวอลุ่มเทรดหุ้นกระฉุด 9.5 หมื่นล้านบาท/วัน กางแผน 3 ปีโดดร่วมวง “สินทรัพย์ดิจิทัล” จ่อสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมลงทุนต่างชาติ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ตั้งเป้าหมายภายในปี 2566 ผลักดันขนาดมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมาเป็น 30 ล้านล้านบาท หรือ 150% ต่อจีดีพี จากปัจจุบันที่ 108% ของจีดีพี เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน และคาดสภาพคล่องปริมาณซื้อขายจะขึ้นมาอยู่ที่ 9.5 หมื่นล้านบาทต่อวัน จากปัจจุบัน 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน

ส่วนแผนงานใหม่ระยะ 3 ปี (2562-2564) ที่จะเริ่มตั้งแต่ปีนี้คือ การส่งเสริมให้เกิดธุรกรรมตลาดทุนที่หลากหลาย โดยเฉพาะการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล (tokenization) อาทิ ไวน์, รูปภาพ, รถยนต์ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ ตลท.อยู่ระหว่างดำเนินการ “proof of concept” หรือทดสอบระบบทำงาน และกำลังหาตัวอย่างโปรเจ็กต์ที่ลูกค้าสนใจและถูกกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้เร็วที่สุดภายในครึ่งปีหลังนี้

“สิ่งแวดล้อมที่ตลาดหลักทรัพย์สร้างขึ้น ตั้งแต่กระบวนการรับลูกค้า สร้างโทเคนดิจิทัลสำหรับสินทรัพย์ ซื้อขาย และการเก็บรักษาสินทรัพย์ จะก่อให้เกิด ecosystem แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลได้” นายภากรกล่าว

นายกิตติ สุทธิอรรถศิลป์ ผู้ช่วยผู้จัดการหัวหน้าสำนักผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตลาดทุนไทยสามารถยกระดับไปสู่ตลาดทุนสากลได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศขนาดใหญ่ หรืออยู่ใจกลางโลก เพราะต่อไปผู้ประกอบการหน้าใหม่ เอสเอ็มอี สตาร์ตอัพ และผู้วิจัยและพัฒนาหน้าใหม่ จะสามารถนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่มาออก “โทเคน” ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึง และนักลงทุนไทยก็มีโอกาสขยายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ทั่วโลกได้เช่นกัน

“เรามองว่าสภาพคล่องของโลกแห่งการลงทุนเป็น ‘โลกใบเดียว’ เพราะฉะนั้น ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือโทเคน หากมีตัวกลางที่สามารถนำเอาทรัพย์สินที่ปัจจุบันยังไม่สามารถซื้อขายได้ด้วยสภาพคล่องของตลาดที่สูง และเข้าถึงยาก ก็จะสามารถทำได้”

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!