นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ความคืบหน้าดีลควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย กับ ธนาคารธนชาตนั้น ขณะนี้ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ฝ่ายมีการหารือกัน โดยล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รายงานว่า ได้ข้อมูลเรื่องการพูดคุยของ 2 ฝ่าย เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อจะได้นำมาวิเคราะห์ดูในมุมของผู้ถือหุ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่มารายงานความคืบหน้า ยังไม่ได้มีเรื่องการวิเคราะห์ผลประโยชน์ที่กระทรวงการคลังจะได้รับ จึงยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ดังนั้นก็ต้องไปวิเคราะห์มาอีกที
ทั้งนี้ การสนับสนุนให้สถาบันการเงินมีการควบรวมกิจการ ถือเป็นนโยบายหลักของกระทรวงการคลัง เพราะมองว่าหากแบงก์ที่มีขนาดเล็ก ต้นทุนจะสูง ดังนั้นหากรวมกันได้ ประสิทธิภาพการทำงานก็จะดีขึ้น และดีต่อทั้งระบบ
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 42,050 บาท
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
“คลังต้องดูในฐานะผู้ถือหุ้น โดยเงินที่เราลงไปในหุ้น ต้องตอบได้ว่า ถ้าทำอะไร ด้วยวิธีการอะไรแล้ว ผลตอบแทนเราต้องไม่แย่ หรือดีขึ้น” นายอภิศักดิ์กล่าว
ส่วนความจำเป็นที่กระทรวงการคลังต้องเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นนั้น นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ยังต้องพิจารณา โดยต้องนำผลศึกษามาดูว่า หากเพิ่มทุนแล้วเกิดประโยชน์มากกว่าการไม่เพิ่มทุน ก็ต้องเพิ่มทุน
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง ในธนาคารทหารไทย ไม่ได้ถือในเชิงยุทธศาสตร์ แต่ถืออยู่ โดยเป็นการลงทุนที่ต้องการผลกำไร ซึ่งกระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องคงอำนาจการบริหารไว้ก็ได้หลังการควบรวม เพราะไม่ได้ถือหุ้นในเชิงยุทธศาสตร์
“ในฐานะผู้ถือหุ้นก็ต้องดูว่า การมูฟ หรือจะทำอะไร ได้ทำให้เราได้ผลประโยชน์มากขึ้น หรือน้อยลงอย่างไร คือต้องดูว่ารวมแล้วคลังได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นไหม และถ้ารวมแล้วต้องเพิ่มทุน ถ้าเทียบกับไม่เพิ่ม อย่างไหนดีกว่ากัน” นายอภิศักดิ์กล่าว
สำหรับกรณีต้องเพิ่มทุนจะนำเงินมาจากไหนนั้น นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่รู้ ต้องรอการศึกษาเรื่องผลประโยชน์ที่จะได้รับก่อน