เร่งต่อสัญญารร.เอราวัณ20ปี ชงครม.อนุมัติ BTS คว้า”โรงภาษีร้อยชักสาม”

แฟ้มภาพ
ฝุ่นตลบก่อนเลือกตั้ง บอร์ด PPP สั่งเร่งแผนต่อสัญญาเช่าบริหาร “โรงแรมเอราวัณ” อีก 20 ปีให้จบ หลังสัญญาเดิมจะครบในปี 2564 เปิดอัตราค่าเช่าล่าสุดปีละแค่ 14.12 ล้านบาท ฟากธนารักษ์เร่งดันโครงการพัฒนา “โรงภาษีร้อยชักสาม” มูลค่า 3.3 พันล้านบาท เข้า ครม. ก่อนเซ็น “บีทีเอส” คู่สัญญาใหม่

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มอบหมายให้บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด ในฐานะหน่วยงานของรัฐไปดำเนินการเกี่ยวกับสัญญาเช่าที่ดินในโครงการจัดประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ที่จะครบสัญญา 30 ปี ในปี 2564

โดยให้ไปเร่งเจรจาคู่สัญญาเรื่องอัตราผลตอบแทนที่ภาครัฐจะได้ ในกรณีต่อสัญญาเช่ากับทางเอราวัณอีก 20 ปี ซึ่งค่าเช่าต้องไม่ต่ำกว่า 14.12 ล้านบาทต่อปี ที่ได้รับอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการพิจารณาต่อสัญญาหรือหาเอกชนรายใหม่นั้น จะต้องเข้าตามกฎหมาย PPP

“สมัยก่อนที่ดินบริเวณราชประสงค์ไม่ได้บูม รัฐบาลก็อยากให้เอกชนลงทุน จริง ๆ ต้องการให้ยาว 50 ปี แต่กฎหมายให้ได้แค่ 30 ปี จึงมีออปชั่นว่าเมื่อครบ 30 ปีแล้ว คู่สัญญามีสิทธิเช่าต่อได้อีก 20 ปี” แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ทั้งนี้ เมื่อครบสัญญา 30 ปี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโรงแรมต่าง ๆ จะตกเป็นของรัฐ ดังนั้น ในการคิดเรื่องผลตอบแทนการเช่า 20 ปีข้างหน้า ก็จะต้องนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นฐานในการคำนวณใหม่ด้วย ซึ่งหมายความว่ารัฐน่าจะต้องได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า 14.12 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ จะพยายามให้ได้ข้อสรุป และเซ็นสัญญาเช่าฉบับใหม่ก่อนจะมีการเลือกตั้ง

รายงานข่าวระบุว่า บริษัท สหโรงแรมไทยฯได้ทำสัญญาเช่ากับ บมจ.โรงแรมเอราวัณ เป็นเวลา 30 ปี กำหนดค่าเช่าเป็นรายปีและปรับขึ้นทุก 10 ปี โดย 10 ปีแรก (ปี 2534-1 ก.ค. 2544) อยู่ที่ 7 ล้านบาทต่อปี ระยะที่ 2 ระหว่าง 2 ก.ค. 2544-1 ก.ค. 2554 ค่าเช่าปีละ 10.92 ล้านบาท และระยะที่ 3 ตั้งแต่ 2 ก.ค. 2554-1 ก.ค. 2564 ค่าเช่าปีละ 14.12 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 1 ก.ค. 2564 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า

ด้านแหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงโรงภาษีร้อยชักสาม ที่อัยการสูงสุดได้ตรวจร่างสัญญาที่จะทำกับเอกชนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยน่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติลงนามในสัญญาได้ก่อนมีการเลือกตั้ง เพื่อที่จะสามารถลงนามในสัญญาเช่า 30 ปี กับบริษัท บีทีเอส ที่เป็นคู่สัญญาใหม่ได้ โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าลงทุน 3,300 ล้านบาท เป็นการสร้างโรงแรม จำนวนห้องพักกว่า 60 ห้อง

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา แจ้งวัฒนะ พื้นที่โซน C ของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) วงเงินลงทุนรวม 30,000 ล้านบาทซึ่ง ครม.อนุมัติหลักการไปก่อนหน้านี้ ก็จะต้องเร่งหาที่ปรึกษาออกแบบให้ได้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อที่จะเซ็นสัญญาก่อนจะมีการเลือกตั้ง

นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงโรงภาษีร้อยชักสามนั้น ขณะนี้เรื่องยังไม่ส่งมาถึงตน แต่ก็ได้กำชับให้เร่งรัดไปแล้วโดยหากอัยการตรวจร่างสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป

คลิกอ่านเพิ่มเติม…บอร์ด PPP เปิดทางสหโรงแรมไทยฯ ให้เอกชนเช่าบริหารโรงแรม “แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ” อีก 20 ปี

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!