ค่าเงินบาทแข็งค่า หลังประชุม กนง.

ค่าเงินบาท ธุรกิจแลกเงิน
แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/2) ที่ระดับ 31.25/26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันอังคาร (5/2) ที่ระดับ 31.29/30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยวานนี้มีการเปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐ (ISM) ร่วงลงสู่ระดับ 56.7 ในเดือน ม.ค. ซึ่งการชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว หลังจากแตะระดับ 57.6 ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคบริการ ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 54.2 ในเดือน ม.ค. จากระดับ 54.4 ในเดือน ธ.ค.

ทั้งนี้ในช่วงเช้าตลาดจับตาดูการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสสหรัฐของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวขึ้นเป็น 2 เท่า ถือเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วนับตั้งแต่เขาได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมทั้งยืนยันแผนสร้างกำแพงเม็กซิโกเพื่อยุติการลักลอบเข้าเมืองและกลุ่มค้ายาเสพติด ส่วนข้อตกลงการค้ากับจีนไม่ได้มุ่งแก้ไขยอดขาดดุลการค้าที่เรื้อรังของสหรัฐ แต่ยังควรเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่าง ๆ ของจีน เพื่อปกป้องตลาดแรงงานและธุรกิจของสหรัฐ

สำหรับปัจจัยในประเทศตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยในช่วงบ่าย โดยที่ประชุมมีมติ 4 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี โดย 2 เสียงเห็นว่าควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% เป็น 2.00% ต่อปี โดยคณะกรรมการมีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศอาจจะชะลอตัว ทั้งนี้คณะกรรมการเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายยังมีความเหมาะสมในระยะข้างหน้า โดยจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพ ระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยง
ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.22-31.29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.23/31.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/2) ที่ระดับ 1.1400/02 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (5/2) ที่ระดับ 1.1420/22 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าจากตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่ชะลอตัว โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 51.0 ในเดือน ม.ค. จากระดับ 51.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับในรอบ 66 เดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกยูโรโซนขยายเพียง 0.8% ลดลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะเดียวกันดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโดยรวมของสหราชอาณาจักรเดือน ม.ค.ปรับลดลงสู่ระดับ 50.1 จากระดับ 51.2 ในเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยหลักมาจากความไม่แน่นอนกรณีการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) ที่ส่งผลให้ภาคธุรกิจชะลอการลงทุน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1378-1.1418 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1392/94 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/2) ที่ระดับ 109.7/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (5/2) ที่ 109.97/99 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากปัจจัยชี้นำ ทั้งนี้ภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกก็ยังคงสนับสนุนให้นักลงทุนถือครองค่าเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยระหว่างวันค่าเงินเยน
เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.64-110.05 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 109.60/62 เยน/
ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือน พ.ย. สหรัฐ (6/2) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (7/2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. เยอรมนี (7/2) ดุลการค้าเดือน ธ.ค. เยอรมนี (8/2) การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. ฝรั่งเศส (8/2)


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.2/-1.9 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.0/-0.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ